โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก) - โครงการพัฒนาระบบการจัดการด้านอาหารและโภชนาการในสถานศึกษาเข้าสู่มาตรฐาน
ชื่อโครงการ | โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก) - โครงการพัฒนาระบบการจัดการด้านอาหารและโภชนาการในสถานศึกษาเข้าสู่มาตรฐาน |
ภายใต้โครงการ | โครงการพัฒนากลไกชุมชนและท้องถิ่นขับเคลื่อนระบบอาหารและโภชนาการเพื่อคุณภาพเด็กวัยเรียน ปีการศึกษา 2567 |
ภายใต้องค์กร | โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก) |
รหัสโครงการ | |
วันที่อนุมัติ | 20 สิงหาคม 2567 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2567 - 15 ธันวาคม 2567 |
งบประมาณ | 0.00 บาท |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก) |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางศิริชนก แปงการิยา |
เบอร์โทรผู้รับผิดชอบโครงการ | |
อีเมล์ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | เลขที่ 10 หมู่ที่ 10 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
ชื่อโรงเรียน | โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก) |
สังกัด | สพป. |
หน่วยงานต้นสังกัด | สพป.เชียงราย เขต ๒ |
ที่อยู่โรงเรียน | เลขที่ 10 หมู่ที่ 10 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย 57180 |
จำนวนนักเรียน | 269 คน |
ช่วงชั้น | อนุบาล,ประถม,มัธยมต้น |
ผู้อำนวยการ | นางศิริชนก แปงการิยา |
ครูผู้รับผิดชอบ | นางสาวขวัญใจ พรมนอก |
การปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นวิธีการปลูกผักที่สะอาด ปลอดภัย และสามารถทำได้ในพื้นที่จำกัด การจัดทำโครงการอบรมให้ความรู้การปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนหันมาปลูกผักรับประทานเอง และสร้างรายได้เสริม ขั้นตอนการดำเนินโครงการ 1. การวางแผน: กำหนดกลุ่มเป้าหมาย: กำหนดให้ชัดเจนว่าจะอบรมให้กับกลุ่มใด เช่น เกษตรกร ชุมชน ชาวบ้านทั่วไป นักเรียน นักศึกษา กำหนดวัตถุประสงค์: กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้เข้าอบรมได้รับ เช่น สามารถออกแบบและสร้างระบบไฮโดรโปรนิกส์ได้ สามารถเลือกพืชที่เหมาะสมสำหรับการปลูก สามารถดูแลรักษาระบบไฮโดรโปรนิกส์ได้ เลือกวิธีการนำเสนอ: เลือกวิธีการนำเสนอที่หลากหลาย เช่น บรรยาย สาธิต การปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจได้ง่ายและน่าสนใจ จัดเตรียมสื่อการสอน: จัดเตรียมสื่อการสอนที่หลากหลาย เช่น ภาพ แผนภูมิ วิดีโอ ตัวอย่างระบบไฮโดรโปรนิกส์ 2. การดำเนินการ: บรรยายเนื้อหา: บรรยายเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการของระบบไฮโดรโปรนิกส์ ประเภทของระบบไฮโดรโปรนิกส์ การเลือกวัสดุอุปกรณ์ 1. หลักการของระบบไฮโดรโปรนิกส์: อธิบายถึงหลักการทำงานของระบบไฮโดรโปรนิกส์ ความแตกต่างระหว่างการปลูกในดินและการปลูกไฮโดรโปรนิกส์ 2. ประเภทของระบบไฮโดรโปรนิกส์: แนะนำประเภทของระบบไฮโดรโปรนิกส์ที่หลากหลาย เช่น ระบบน้ำไหลเวียน ระบบน้ำนิ่ง 3. การเตรียมน้ำและสารละลาย: สอนวิธีการเตรียมน้ำและสารละลายที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผัก 4. การเลือกวัสดุปลูก: แนะนำวัสดุปลูกที่เหมาะสมสำหรับการปลูกไฮโดรโปรนิกส์ เช่น หินภูเขาไฟใยมะพร้าว 5. การเลือกพืช: แนะนำพืชที่เหมาะสมสำหรับการปลูกไฮโดรโปรนิกส์ เช่น ผักสลัด ผักใบเขียว 6. การปลูกและดูแลรักษา: สอนวิธีการปลูกและดูแลรักษาผักไฮโดรโปรนิกส์ 7. การแก้ไขปัญหา: สอนวิธีการแก้ไขปัญหาที่พบบ่อยในการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ 8. สาธิตการทำระบบไฮโดรโปรนิกส์: สาธิตการทำระบบไฮโดรโปรนิกส์แบบง่ายๆ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เห็นขั้นตอนการทำ กิจกรรมกลุ่ม: จัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ปฏิบัติจริง เช่น การเตรียมน้ำและสารละลาย การปลูกผัก 3. การประเมินผล: ประเมินความพึงพอใจ: ประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าอบรมต่อโครงการ ประเมินผลการเรียนรู้: ประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรม เช่น ผ่านแบบทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติจริง
นักเรียนมีความรู้และทักษะเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ การสร้างรายได้ และการส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้รับประทานผักที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อสุขภาพ
การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารและโภชนาการที่สมดุลในแต่ละช่วงวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น ภาวะทุพโภชนาการ โรคอ้วน และโรคเรื้อรัง ขั้นตอนกระบวนการอบรมนี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายระยะ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการและความเข้าใจของผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย 1. การเตรียมการ 1.1 การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย: ทำความเข้าใจช่วงวัยของผู้เข้ารับการอบรม เช่น เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมเนื้อหาที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม 1.2 การจัดเตรียมเนื้อหา: รวบรวมข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย รวมถึงหลักการพื้นฐานของการบริโภคอาหารที่สมดุล เช่น สัดส่วนของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามินที่จำเป็น 1.3 การจัดหาวิทยากร: คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและสุขภาพที่มีประสบการณ์ในการให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย 2. การดำเนินการอบรม 2.1 การแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมตามช่วงวัย: เด็กเล็ก (0-5 ปี): เน้นการบริโภคอาหารที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการ รวมถึงวิธีการให้อาหารเสริมที่เหมาะสม เด็กวัยเรียน (6-12 ปี): เน้นความสำคัญของอาหารครบหมู่ การรับประทานอาหารเช้า และการลดการบริโภคขนมหวาน วัยรุ่น (13-18 ปี): ให้ความรู้เกี่ยวกับพลังงานที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต การควบคุมอาหารที่ถูกต้อง และการป้องกันโรคอ้วน 2.2 การใช้สื่อการเรียนการสอน: ใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น สไลด์ วิดีโอ สื่อสิ่งพิมพ์ และการสาธิตการทำอาหาร เพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ 2.3 การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมอบรม: จัดกิจกรรมกลุ่มย่อย การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการทำเวิร์กช็อปเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตประจำวัน 3. การติดตามและประเมินผล 3.1 การทบทวนความรู้: ทำแบบทดสอบหรือแบบสอบถามเพื่อประเมินความเข้าใจของผู้เข้ารับการอบรม 3.2 การติดตามผล: มีการติดตามการนำความรู้ไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น การจัดทำบันทึกการรับประทานอาหาร และการประชุมกลุ่มเพื่อติดตามความก้าวหน้า 4. การสนับสนุนหลังการอบรม 4.1 การให้คำปรึกษา: เปิดช่องทางให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถติดต่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโภชนาการได้ 4.2 การเผยแพร่ข้อมูล: ส่งต่อข้อมูลเพิ่มเติมหรือสื่อการเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง
เด็กนักเรียน ชั้น ป. 4-6 และ ม.1-3 ในโรงเรียน มีความรอบรู้การบริโภคอาหารและโภชนาการที่สมดุล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2567 12:08 น.