other_houses

โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก)

info
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อโรงเรียน โรงเรียนบ้านทุ่งพร้าว (เพ็คกี้ฮิทค็อก)
สังกัด สพป.
หน่วยงานต้นสังกัด สพป.เชียงราย เขต ๒
ที่อยู่โรงเรียน เลขที่ 10 หมู่ที่ 10 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย 57180
จำนวนนักเรียน 269 คน
ช่วงชั้น อนุบาล,ประถม,มัธยมต้น
ผู้อำนวยการ นางศิริชนก แปงการิยา
ครูผู้รับผิดชอบ นางสาวขวัญใจ พรมนอก
restaurant_menu
ข้อมูลภาวะโภชนาการ
assignment
กิจกรรม
อบรมให้ความรู้การปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ (ปลอดสารพิษ)นางสาวขวัญใจ พรมนอก เมื่อ 13 ส.ค. 67 น. @4 ก.ย. 67 13:38
รายละเอียด:

การปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นวิธีการปลูกผักที่สะอาด ปลอดภัย และสามารถทำได้ในพื้นที่จำกัด การจัดทำโครงการอบรมให้ความรู้การปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนหันมาปลูกผักรับประทานเอง และสร้างรายได้เสริม ขั้นตอนการดำเนินโครงการ 1. การวางแผน: กำหนดกลุ่มเป้าหมาย: กำหนดให้ชัดเจนว่าจะอบรมให้กับกลุ่มใด เช่น เกษตรกร ชุมชน ชาวบ้านทั่วไป นักเรียน นักศึกษา กำหนดวัตถุประสงค์: กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้เข้าอบรมได้รับ เช่น สามารถออกแบบและสร้างระบบไฮโดรโปรนิกส์ได้ สามารถเลือกพืชที่เหมาะสมสำหรับการปลูก สามารถดูแลรักษาระบบไฮโดรโปรนิกส์ได้ เลือกวิธีการนำเสนอ: เลือกวิธีการนำเสนอที่หลากหลาย เช่น บรรยาย สาธิต การปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจได้ง่ายและน่าสนใจ จัดเตรียมสื่อการสอน: จัดเตรียมสื่อการสอนที่หลากหลาย เช่น ภาพ แผนภูมิ วิดีโอ ตัวอย่างระบบไฮโดรโปรนิกส์ 2. การดำเนินการ: บรรยายเนื้อหา: บรรยายเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการของระบบไฮโดรโปรนิกส์ ประเภทของระบบไฮโดรโปรนิกส์ การเลือกวัสดุอุปกรณ์       1. หลักการของระบบไฮโดรโปรนิกส์: อธิบายถึงหลักการทำงานของระบบไฮโดรโปรนิกส์ ความแตกต่างระหว่างการปลูกในดินและการปลูกไฮโดรโปรนิกส์       2. ประเภทของระบบไฮโดรโปรนิกส์: แนะนำประเภทของระบบไฮโดรโปรนิกส์ที่หลากหลาย เช่น ระบบน้ำไหลเวียน ระบบน้ำนิ่ง       3. การเตรียมน้ำและสารละลาย: สอนวิธีการเตรียมน้ำและสารละลายที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผัก     4. การเลือกวัสดุปลูก: แนะนำวัสดุปลูกที่เหมาะสมสำหรับการปลูกไฮโดรโปรนิกส์ เช่น หินภูเขาไฟใยมะพร้าว     5. การเลือกพืช: แนะนำพืชที่เหมาะสมสำหรับการปลูกไฮโดรโปรนิกส์ เช่น ผักสลัด ผักใบเขียว     6. การปลูกและดูแลรักษา: สอนวิธีการปลูกและดูแลรักษาผักไฮโดรโปรนิกส์     7. การแก้ไขปัญหา: สอนวิธีการแก้ไขปัญหาที่พบบ่อยในการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์     8. สาธิตการทำระบบไฮโดรโปรนิกส์: สาธิตการทำระบบไฮโดรโปรนิกส์แบบง่ายๆ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เห็นขั้นตอนการทำ กิจกรรมกลุ่ม: จัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ปฏิบัติจริง เช่น การเตรียมน้ำและสารละลาย การปลูกผัก 3. การประเมินผล: ประเมินความพึงพอใจ: ประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าอบรมต่อโครงการ ประเมินผลการเรียนรู้: ประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เข้าอบรม เช่น ผ่านแบบทดสอบ การสังเกตการปฏิบัติจริง

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

นักเรียนมีความรู้และทักษะเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ การสร้างรายได้ และการส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้รับประทานผักที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อสุขภาพ

อบรมให้ความรู้การบริโภคอาหารและโภชนาการที่สมดุลแต่ละช่วงวัยนางสาวขวัญใจ พรมนอก เมื่อ 13 ส.ค. 67 น. @4 ก.ย. 67 13:25
รายละเอียด:

การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารและโภชนาการที่สมดุลในแต่ละช่วงวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น ภาวะทุพโภชนาการ โรคอ้วน และโรคเรื้อรัง ขั้นตอนกระบวนการอบรมนี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายระยะ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการและความเข้าใจของผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย 1. การเตรียมการ 1.1 การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย: ทำความเข้าใจช่วงวัยของผู้เข้ารับการอบรม เช่น เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมเนื้อหาที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม 1.2 การจัดเตรียมเนื้อหา: รวบรวมข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย รวมถึงหลักการพื้นฐานของการบริโภคอาหารที่สมดุล เช่น สัดส่วนของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามินที่จำเป็น 1.3 การจัดหาวิทยากร: คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและสุขภาพที่มีประสบการณ์ในการให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย 2. การดำเนินการอบรม 2.1 การแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมตามช่วงวัย:     เด็กเล็ก (0-5 ปี): เน้นการบริโภคอาหารที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการ รวมถึงวิธีการให้อาหารเสริมที่เหมาะสม     เด็กวัยเรียน (6-12 ปี): เน้นความสำคัญของอาหารครบหมู่ การรับประทานอาหารเช้า และการลดการบริโภคขนมหวาน     วัยรุ่น (13-18 ปี): ให้ความรู้เกี่ยวกับพลังงานที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต การควบคุมอาหารที่ถูกต้อง และการป้องกันโรคอ้วน 2.2 การใช้สื่อการเรียนการสอน: ใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น สไลด์ วิดีโอ สื่อสิ่งพิมพ์ และการสาธิตการทำอาหาร เพื่อให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ 2.3 การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมอบรม: จัดกิจกรรมกลุ่มย่อย การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการทำเวิร์กช็อปเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตประจำวัน 3. การติดตามและประเมินผล 3.1 การทบทวนความรู้: ทำแบบทดสอบหรือแบบสอบถามเพื่อประเมินความเข้าใจของผู้เข้ารับการอบรม 3.2 การติดตามผล: มีการติดตามการนำความรู้ไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น การจัดทำบันทึกการรับประทานอาหาร และการประชุมกลุ่มเพื่อติดตามความก้าวหน้า 4. การสนับสนุนหลังการอบรม 4.1 การให้คำปรึกษา: เปิดช่องทางให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถติดต่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโภชนาการได้ 4.2 การเผยแพร่ข้อมูล: ส่งต่อข้อมูลเพิ่มเติมหรือสื่อการเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

เด็กนักเรียน ชั้น ป. 4-6 และ ม.1-3 ในโรงเรียน มีความรอบรู้การบริโภคอาหารและโภชนาการที่สมดุล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80