1.ศึกษาวิธีการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์
1.1 ครูอธิบายการปลูกพืชไร้ดินและเชิญวิทยากรที่มีความรู้ในการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์
1.2 วิทยากรอธิบายวิธีการปลูกพืชไร้ดินแบบ Hydroponics ตามขั้นตอนดังนี้
- เตรียมฟองน้ำที่ใช้โดยการผ่าแบ่งให้เหมาะสมกับรางปลูก ใช้ มีดคัตเตอร์ กรีดฟองน้ำเป็นเครื่องหมายคูณ ความลึกของรอยประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
- ใส่เมล็ดลงไปในรอยกรีด ประมาณ 2-3 เมล็ด นำไปใส่ในกระบะเพาะ รดน้ำให้ชุ่มแต่ห้ามไม่ให้ระดับน้ำสูงเกินไปจนท่วมเมล็ดเพราะ เมล็ดจะไม่งอกและเน่าในที่สุด
- นำผ้าขาวบางหรือผ้าที่ไม่หนามากนักมาคลุมที่กระบะเพาะ เพื่อเป็นการรักษาความชื้น ทิ้งไว้ 3-4 วัน แต่ต้องมีการเปิดดูทุกๆ วัน
- เมื่อต้นกล้าที่เพาะไว้เริ่มจะแข็งแรงหรือมีอายุได้ประมาณ 5-7 วัน ให้เปิดผ้าออก แล้วนำต้นกล้าออกจากที่ร่มเพื่อมารับแสงแดด 2-3วัน ก็จะได้ต้นกล้าที่สามารถลงในรางปลูกได้
- ย้ายต้นกล้าลงในรางปลูก ให้ฟองน้ำ จมลงในในระดับน้ำเพียงครึ่งหนึ่งของทั้งหมดเพื่อให้รากของต้นพืชได้มีการเจริญเติมโต หาอาหารเองตามธรรมชาติ โดยมีสารละลายธาตุอาหารไหลผ่านรากตลอดเวลา
- ให้ธาตุอาหารตามความเข้มข้นที่เหมาะสม ต่อความต้องการของพืชชนิดนั้น และตามที่ผลิตภัณฑ์สารอาหารนั้นกำหนด
- หมั่นดูแลรักษาทุกวัน สังเกตความต้องการสารอาหารของต้นพืชจากสีของลำต้นและสีของใบ ตามแต่ลักษณะของพืชชนิดนั้นๆ
- ครูให้นักเรียนปลูกพืชไร้ดินแบบ Hydroponics
- นักเรียนดูแลรักษาพืชผักที่ปลูก
- นักเรียนเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้จากการปลูก นำส่งโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนและเสริมสร้างรายได้แก่นักเรียนและจำหน่ายไปยังตลาดนัดนักเรียน
ซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์หน้าระเบียงอาคาร
- ท่อเลฟล่อน
- ถาดเพาะผักไฮโดรโปรนิกส์
- ถ้วยเพาะต้นกล้าผักไฮโดรโปรนิกส์
ซื้อเมล็ดพันธุ์ไฮโดรโปรนิกส์
แบ่งกลุ่มนักเรียนปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์และดูแลรักษาพืชผักที่ปลูก
- การปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ท่ีหน้าระเบียงอาคาร และในถาด
- การใส่ปุ๋ย
- การย้ายต้นกล้า
- การให้น้ำหมุนเวียน
- การชั่งผลผลิตจัดจำหน่ายใส่ถุงขาย
5.นำผลผลิตที่ได้ส่งสหกรณ์โรงเรียนเพิ่อจำหน่ายให้กับโครงการอาหารกลางวันและบุคลากรในโรงเรียน
ผลผลิต 1. นักเรียนรับผิดชอบปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ปลอดสารพิษ จำนวน 100คน ครูที่ปรึกษา 2 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน 2 คน 2. ได้ผักไฮโดรโปรนิกส์ปลอดสารพิษในการประกอบอาหาร
ผลลัพธ์ 1. นักเรียนมีความรู้ ทักษะในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์สามารถขยายผลสู่เครื่อข่ายได้ 2. นักเรียนนำผลผลิตขายผ่านสหกรณ์ต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน 3. นักเรียนนำความรู้ ประสบการณ์ท่ีได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน 4. เป็นอาชีพเสริมเพ่มรายได้ให้แก่ครอบครอบ
ประกอบด้วย