other_houses

โรงเรียนสุเหร่าซีรอ (ราษฎร์สามัคคี)

info
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อโรงเรียน โรงเรียนสุเหร่าซีรอ (ราษฎร์สามัคคี)
สังกัด ??
หน่วยงานต้นสังกัด ??
ที่อยู่โรงเรียน แขวงสะพานสูง เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
จำนวนนักเรียน 960 คน
ช่วงชั้น อนุบาล,ประถม,มัธยมต้น
ผู้อำนวยการ นายธีระพร ทองสาด
ครูผู้รับผิดชอบ นางฮับเซ๊าะ พวงมณีย์
restaurant_menu
ข้อมูลภาวะโภชนาการ
assignment
กิจกรรม
จัดทำรายงานปิดโครงการ งวด 2 พร้อมคืนดอกเบี้ย hubsoh เมื่อ 6 เม.ย. 60 น. @5 เม.ย. 60 08:27
รายละเอียด:

  จัดทำรายงานปิดโครงการ งวด 2 พร้อมคืนดอกเบี้ย

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

จัดทำรายงานปิดโครงการ งวด 2 พร้อมคืนดอกเบี้ย

ถอนเงินค่าเปิดบัญชีธนาคารaree suwanchatree เมื่อ 4 เม.ย. 60 น. @6 เม.ย. 60 09:40
รายละเอียด:

ถอนเงินค่าเปิดบัญชีธนาคาร

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ถอนเงินค่าเปิดบัญชีธนาคาร

ติดตามภาวะโภชนาการนักเรียนhubsoh เมื่อ 9 ม.ค. 60 น. @18 มี.ค. 60 10:04
รายละเอียด:

รายละเอียดขั้นตอน กระบวนการ กิจกรรมปฎิบัติจริง

  1. ชั่งนำหนัก-วัดส่วนสูงนักเรียนทุกคนบันทึกในสมุดบันทึกน้ำหนัก-วัดส่วนสูงภาคเรียนล 2 ครั้ง
  2. นำข้อมูลน้ำหนัก-ส่วนสูงไปวิเคราะห์เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย
  3. บันทึกรายชื่อนักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)
  4. นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)ทำกิจกรรมเด็กไทยไร้พุง
  5. ให้ความรู้ผู้ปกครอง นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. นักเรียนจำนวน 828 คน ชั่งน้ำหนัก-วัดส่วนสูงภาคเรียนละ 2 ครั้ง
  2. นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม) จำนวน 97 คนกิจกรรมเด็กไทยไร้พุง
  3. ผู้ปกครอง นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม) จนวน 97 คนประชุมปรึกษาหาแนวทางแก้ไข

ผลลัพธ์

  1. ได้รับทราบจำนวนนักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม) ปีการศึกษา 2559 ภาคเรียนที่ 2 เมื่อเปรียบเทียบ ปรากฎว่า -  เตี้ย ลดลง 0.22 - -  ผอม ลดลง 0.71 -  อ้วน  เพิ่มขึ้น 1.23 -  อ้วน-เริ่มอ้วน เพิ่มขึ้น 1.37
  2. นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)ได้รับการช่วยเหลือเข้าร่วมกิจกรรมเด็กไทยไร้พุงเพื่อให้มีจำนวนลดน้อยลงและมีน้ำได้เกณฑ์มาตรฐาน
  3. ผู้ปกครอง และนักเรียนที่มีปัญหาภาวะทุพโภชนการได้รับความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัตนในชีวิตประจำวัน การเลือกรับประทานอาหาร การดูแลสุขภาพ
อบรมผู้ปกครองสำหรับนักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตราฐานhubsoh เมื่อ 9 ม.ค. 60 น. @12 มี.ค. 60 22:45
รายละเอียด:

1.การชั่งน้ำหนัก -วัดส่วนสูง โดยครูประจำชั้นแล้วแปรผล

2.การบันทึกสุขภาพโดยครูประจำชั้น

3.ทำหนังสือเชิญผู้ปกครองและนักเรียนที่มีปัญหาทุพโภชนาการเกิน (อ้วน)เข้ารับการอบรม

4.ทำหนังสือเรียนเชิญพยาบาลอนามัยศูนย์สาธารณสุข 68 สะพานสูงให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนที่มีปัญหาทุพโภชนาการเกิน (อ้วน)

5.พยาบาลอนามัยศูนย์สาธารณสุข 68 สะพานสูงให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหาร การดูแล รักษาสุขภาพ
6.เลี้ยงอาหารว่างและอาหารกลางวันผู้ปกครอง

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต
1. นักเรียน จำนวน 828 คน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ภาค เรียนละ 2 ครั้ง
2. โรงเรียนมีสารสนเทศด้าน สุขภาพนักเรียน ร้อย100 3. ผู้ปกครองและนักเรียนที่มี ปัญหาทุพโภชนาการจำนวน 97 คนได้รับ ความรู้เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหาร การดูแล รักษาสุขภาพ

ผลลัพท์
1.นักเรียนที่มีน้ำหนัก ไม่ได้มาตรฐานได้รับการ ช่วยเหลือ ด้วยวิธีการ ต่าง ๆ มีโครงการเด็กไทยไร้พุง

2.นักเรียนมีน้ำหนัก ส่วนสูงได้เกณฑ์มาตรฐานมากขึ้น
3.นักเรียนที่มีปัญหาได้รับการช่วยเหลือ

4.นักเรียนที่มีปัญหาทุพโภชนาการได้รับการแก้ไข สถิตินักเรียนที่มีปัญหา ทุพโภชนาการ ลดน้อยลง

กิจกรรมเด็กไทยไร้พุง ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 2 ม.ค. 60 น. @12 มี.ค. 60 23:25
รายละเอียด:

การทดสอบสมรรถภาพและการออกกำลังกาย

  1. ครูพลศึกษาทดสอบสมรรถภาพนักเรียนปีละ 1ครั้ง
  2. นักเรียนท่ีมีภาวะทุพโชนาเกิน (อ้วน) ออกกำลังกายโดยปั่นจักรลดพุง กระโดดเชือก เล่นฮูลาฮุบ ปั่นเพื่อสุขภาพ
  3. นักเรียนท่ีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)ออกกำลังกายก่อนเรียนวิชาพลศึกษา
  4. นักเรียนออกยามเช้าก่อนเข้าเรียนทุกวันพุธ
  5. การตรวจสุขภาพนักเรียน
  6. จัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายเพิ้มเติม
  7. การปรับปรุงห้องพยาบาล
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต
1. นักเรียนได้รับการตรวจสุขภาพทุกคน
2. นักเรียนได้รับการทดสอบสมรรถภาพทางกายอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง 3. นักเรียนที่อ้วนได้รับการแก้ไข 100 %
4. นักเรียนที่อ้วนได้รับการออกตอนเช้าทุกวันพุธและออก กำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน
5. ห้องพยาบาลให้ได้มาตรฐาน สวยงาม สะอาดและ ส่งเสริมความรู้ทั่วไป

ผลลัพท์
1. โรงเรียนมีสารสนเทศ ด้านสุขภาพนักเรียน 100%
2. นักเรียนที่มีปัญหาด้าน สมรถภาพทางกายได้รับการแก้ไข 100 %
3. จำนวนนักเรียนที่เป็นโรคอ้วนลดลงอย่างน้อย 7 %
4. โรงเรียนมีห้องพยาบาลได้ผ่านมาตรฐาน
ปีการศึกษา 2559 ภาคเรียนที่ 2 เมื่อเปรียบเทียบ ปรากฎว่า 1. เตี้ย ลดลง 0.22
2. ผอม ลดลง 0.71 3. อ้วน  เพิ่มขึ้น 1.23 4. อ้วน-เริ่มอ้วน เพิ่มขึ้น 1.37

ทำยาล้างมือ ยากำจัดเหาสมุนไพรมะกรูด ครั้งที่ 2hubsoh เมื่อ 2 ม.ค. 60 น. @11 มี.ค. 60 23:47
รายละเอียด:
  1. ครูประจำชั้นให้ความรู้บูรณการในวิชาสุขศึกษา เรื่องการล้างมือ สุขบัญญัติ 10 ประการ การใช้ช้อนกลาง การแปรงฟัน การอาบน้ำสระผม
  2. ครูตรวจสุขภาพ เล็บ เหาผม ฟันนักเรียน
  3. นักเรียนแกนนำอสม. ทำการตรวจเหา แลใส่ยากำจัดเหา
  4. พยาบาลอนามัย ศูนย์สาธารณสุข 68 สะพานสู เขตสะพานสูง ใส่ยากำจัดเหานักเรียน
  5. ครูและนักเรียนแกนนำช่วยกันทำน้ำยาล้างมือและนำยากำจัดเหาสมุนไพรมะกรูด
  6. เจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกอาชีพ แผนกการตัดผม สำนักงานเขตสะพานสูง ทำการตัดผมให้นักเรียน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. มีนักเรียนแกนนำตรวจสุขภาพนักเรียน
  2. เจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกอาชีพ แผนกการตัดผม สำนักงานเขตสะพานสูงร่วมกิจกรรม
  3. ทำยากำจัดเหาสมุนไพร
  4. ทำน้ำยาล้างมืออเนกประสงค์สมุนไพร

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนได้รับความรู้จากการเรียนวิชาสุขศึกษานำมาต่อยอดดูแลสุขภาพเพื่อน ๆ และน้อง ๆได้
  2. ได้ผลิตภัณฑ์น้ำยากจัดเหาสมุนไพรแทนน้ำยากำจัดเหาท่ีผสมสารเคมี
  3. นัเรียนผมสั้นถูกระเบียบของโรงเรียน
  4. ได้น้ำยาล้างมืออเนกประสงค์สมุนไพรแทนน้ำยาล้างมืออเนกประสงค์สมุนไพร
การเลี้ยงไก่ไข่ ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 1 ธ.ค. 59 น. @5 มี.ค. 60 18:56
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูงให้ความรู้คำแนะนำวิธีการเลี้ยงไก่ไข่แก่นักเรียนแกนนำดังนี้
    • ไก่พันธุ์แท้ เป็นไก่ที่ได้รับการคัดเลือกและผสมพันธุ์มาเป็นอย่างดี จนลูกหลานในรุ่นต่อๆ มามีลักษณะรูปร่าง ขนาด สี และอื่นๆ เหมือนบรรพบุรุษไก่พันธุ์แท้ยกตัวอย่าง ไก่พันธุ์แท้ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ โร๊ดไอส์แลนด์แดง บาร์พลีมัทร็อค เล็กฮอร์นขาวหงอนจักร
    • ไก่พันธุ์ผสม ฟังดูอาจจะดูเป็นไก่ไม่ดี แต่ที่จริงแล้วเป็นไก่ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างไก่พันธุ์แท้ 2 พันธุ์ โดยมีจุดประสงค์ให้ลูกไก่ได้ข้อดีของพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ เช่น ไข่ดก ทนทานโรค เป็นต้น ยกตัวอย่างไก่ผสมที่เป็นที่็นิยมก็คือ ไก่ไฮบรีด อุปกรณ์ในการเลี้ยงไก่ไข่

ส่วนนี้เป็นสิ่งจำเป็นมากในการเลี้ยงไก่ไข่ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานอย่างเช่น ถาดหรือรางอาหาร รางน้ำ และอุปกรณ์ที่พิเศษขึ้นมาก็ยกตัวอย่าง เช่น

  • อุปกรณ์การให้อาหาร มีหลายแบบ เช่น ถาดอาหาร รางอาหาร ถังอาหาร เป็นต้น
  • อุปกรณ์ให้น้ำ มีหลายแบบขึ้นอยู่กับอายุไก่ เช่น แบบรางยาว แบบขวดมีฝาครอบ
  • เครื่องกกลูกไก่ ทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นแทนแม่ไก่ในตอนที่ลูกไก่ยังเล็กอยู่
  • รังไข่ โดยปกติรังไข่จะควรมีความมืดพอสมควร และมีอุณหภูมิที่เย็น ซึ่งถ้าหากเลี้ยงแบบโรงเรือนก็จะเป็นรางที่ควรทำความสะอาดง่าย หรือถ้าใครเลี้ยงแบบปล่อย ก็ควรมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการออกไข่ อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น
  • วัสดุรองพื้น จำพวก ฟางข้าว ซังข้าวโพด แกลบ เป็นต้น เพื่อความสะอาดและความสบายของตัวไก่
  • อุปกรณ์การให้แสง ทั้งแสงจากธรรมชาติ และแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์
  1. อาหารของไก่ไข่ ส่วนประกอบของสารอาหารที่จำเป็นต่อไก่ไข่ ก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์มากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ วัตถุดิบที่นำมาใช้จะต้องเหมาะสมทั้งในเรื่องของ ราคา ปริมาณ และคุณภาพของสารอาหารที่ให้ โดยทางทีมงานอีสานร้อยแปด จะแบ่งให้ทุกคนดูง่ายๆ เป็น สารอาหาร 6 ประเภทใหญ่ๆ

    • โปรตีน ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อในการเจริญเติบโตซ่อมแซมรักษา ในอาหารไก่ไข่ควรจะมีโปรตีนประมาณ13-19%
    • คาร์โบไฮเดรต มีหน้าที่ให้พลังงาน ให้ความอบอุ่น และเพื่อนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ควรจะมีอยู่ในอาหารไก่ไข่ประมาณ38-61%
    • น้ำ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ช่วยในการย่อย การดูดซึม รักษาอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย
    • ไขมัน มีหน้าทีให้ความอบอุ่นและพลังงานแก่ร่างกาย แต่ไม่ควรมากเกินไป
    • วิตามิน ช่วยให้ไก่มีความต้านทานโรค และบำรุงระบบประสาท
    • แร่ธาตุ ช่วยในการสร้างโครงกระดูก สร้างเลือด สร้างเปลือกไข่
  2. ชนิดของอาหารที่ใช้เลี้ยงไก่ไข่

    • อาหารผสม เป็นอาหารผสมจากวัตถุดิบที่บดละเอียดแล้วหลายๆ อย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน สามารถนำไปเลี้ยงไก่ได้ทันที
    • หัวอาหาร เป็นอาหารเข้มข้นที่ผสมจากวัตถุดิบพวกโปรตีนจากพืช สัตว์ ไวตามิน แร่ธาตุ และยาต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมและลดต้นทุนค่าอาหาร
    • อาหารอัดเม็ด เป็นอาหารสำเร็จรูปมีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับอายุของไก่
    • อาหารเสริม เป็นอาหารที่นำไปเสริมเพื่อเพิ่มสารอาหารด้านต่าง ๆ ที่ยังขาด เพื่อให้ไก่ได้รับสารอาหารครบถ้วน
  3. โรงเรือนในการเลี้ยงไก่ไข่

    • ป้องกันแดด ลม และฝนได้
    • แข็งแรง ทนทาน ป้องกัน นก หนู แมว หรือสุนัขได้
    • ทำความสะอาดได้ง่าย
    • ห่างจากชุมชน และอยู่ใต้ลมของบ้าน เพราะจะได้ไม่มีกลิ่นรบกวน
    • ใช้วัสดุที่หาง่าย ราคาถูก
    • ถ้าสร้างหลายหลังควรมีระยะห่างมากกว่า 10 เมตร เพื่อให้ระบายอากาศได้ดีและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
  4. แบบโรงเรือนในการเลี้ยงไก่ไข่ ลักษณะของโรงเรือนไก่ไข่จะมีหลายแบบขึ้นอยู่กับงบประมาณ วัสดุ ความยากง่ายในการสร้าง รูปแบบของโรงเรือนไก่ไข่มีดังนี้

    • แบบเพิงหมาแหงน แบบนี้จะสร้างง่าย ลงทุนน้อย แต่จะมีข้อเสียคือฝนอาจจะสาดเข้าทางด้านหน้าได้ง่าย และมีความแข็งแรงน้อย
    • แบบหน้าจั่วชั้นเดียว ข้อดีคือแข็งแรงกว่าแบบเพิงหมาแหงน สามารถป้องกันแดด ลม ฝนได้ดีกว่า แต่จะมีค่าวัสดุ อุปกรณ์ และค่าก่อสร้างมากกว่าแบบเพิงหมาแหงน เพราะรูปแบบมีความซับซ้อนมากกว่า
    • แบบหน้าจั่วสองชั้น แบบนี้จะคล้าย ๆ กับหน้าจั่วชั้นเดียว แต่จะต่างกันตรงที่มีหน้าจั่วชั้นที่ 2 เพิ่งขึ้นมาเพื่อช่วยระบายอากาศ ทำให้แบบนี้จะระบายความร้อนได้ดีและเย็นกว่าแบบหน้าจั่วชั้นเดียว แต่ก็จะมีค่าก่อสร้างแพงกว่าหน้าจั่วชั้นเดียว
    • แบบหน้าจั่วกลาย คล้ายเพิงหมาแหงน แต่สามารถกันฝนได้ดีกว่า และมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมากกว่าเพิงหมาแหงน
    • แบบเพิงหมาแหงนกลาย แบบนี้จะมีกว่าเพิงหมาแหงนและแบบหน้าจั่ว เพราะมีการระบายอากาศ และกันฝน กันแดดได้ดีกว่า แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าแบบหน้าจั่ว
  5. ปรับปรุงซ่อมโรงเรือนเลี้ยงไก่โดยการทำความสะอาดโรงเรือน กวาดขี้ไก่ และโรยแกลบชุดใหม่

  6. สอบถามราคาพันธ์ไก่ไข่ อุปกรณ์เลี้ยงไก่ไข่ และอาหารไก่ไข่ตามร้านค้า
  7. ซื้อพันธุ์ไก่ไข่ จำนวน 25 ตัว ตัวละ200บาท
  8. ซื้ออุปกรณ์เลี้ยงไก่ไข่จากร้านค้าในชุมชน
  9. ซื้ออาหารไก่ไข่จากร้านค้าในชุมชน
  10. นำผลผลิตไข่ไก่สงสหกรณ์โรงเรียนเพื่่อจำหน่ายให้กับโครงการอาหารกลางวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูง 2 คนให้คำแนะนำวิธีการเลี้ยงไก่ไข่แก่นัเรียนแกนนำ 2. โรงเรียนเลี้ยงไก่ไข่ 25  โดยมีผลผลิตจากไก่ไข่ ทุกวัน 25 ฟอง 3. มีนักเรียนเลี้ยงไก่ไข่  30 คน มีครูที่ปรึกษา 2 คน

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนมีไข่ไก่ รับประทานในโครงการอาหารกลางวัน
  2. นักเรียนได้ประสบการณ์จริง ในการปฏิบัติกิจกรรม
  3. นักเรียนมีความรู้ในเรื่องการเลี้ยงไก่ไข่ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 4  โรงเรียนมีการบูรณาการ การเรียนการสอนในกิจกรรม ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
การเลี้ยงไก่ไข่ ครั้งที่1hubsoh เมื่อ 4 ก.ค. 59 น. @29 ต.ค. 59 20:50
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูงให้ความรู้คำแนะนำวิธีการเลี้ยงไก่ไข่แก่นักเรียนแกนนำดังนี้
    • ไก่พันธุ์แท้ เป็นไก่ที่ได้รับการคัดเลือกและผสมพันธุ์มาเป็นอย่างดี จนลูกหลานในรุ่นต่อๆ มามีลักษณะรูปร่าง ขนาด สี และอื่นๆ เหมือนบรรพบุรุษไก่พันธุ์แท้ยกตัวอย่าง ไก่พันธุ์แท้ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ โร๊ดไอส์แลนด์แดง บาร์พลีมัทร็อค เล็กฮอร์นขาวหงอนจักร
    • ไก่พันธุ์ผสม ฟังดูอาจจะดูเป็นไก่ไม่ดี แต่ที่จริงแล้วเป็นไก่ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างไก่พันธุ์แท้ 2 พันธุ์ โดยมีจุดประสงค์ให้ลูกไก่ได้ข้อดีของพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ เช่น ไข่ดก ทนทานโรค เป็นต้น ยกตัวอย่างไก่ผสมที่เป็นที่็นิยมก็คือ ไก่ไฮบรีด อุปกรณ์ในการเลี้ยงไก่ไข่

ส่วนนี้เป็นสิ่งจำเป็นมากในการเลี้ยงไก่ไข่ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานอย่างเช่น ถาดหรือรางอาหาร รางน้ำ และอุปกรณ์ที่พิเศษขึ้นมาก็ยกตัวอย่าง เช่น

  • อุปกรณ์การให้อาหาร มีหลายแบบ เช่น ถาดอาหาร รางอาหาร ถังอาหาร เป็นต้น
  • อุปกรณ์ให้น้ำ มีหลายแบบขึ้นอยู่กับอายุไก่ เช่น แบบรางยาว แบบขวดมีฝาครอบ
  • เครื่องกกลูกไก่ ทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นแทนแม่ไก่ในตอนที่ลูกไก่ยังเล็กอยู่
  • รังไข่ โดยปกติรังไข่จะควรมีความมืดพอสมควร และมีอุณหภูมิที่เย็น ซึ่งถ้าหากเลี้ยงแบบโรงเรือนก็จะเป็นรางที่ควรทำความสะอาดง่าย หรือถ้าใครเลี้ยงแบบปล่อย ก็ควรมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการออกไข่ อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น
  • วัสดุรองพื้น จำพวก ฟางข้าว ซังข้าวโพด แกลบ เป็นต้น เพื่อความสะอาดและความสบายของตัวไก่
  • อุปกรณ์การให้แสง ทั้งแสงจากธรรมชาติ และแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์
  1. อาหารของไก่ไข่ ส่วนประกอบของสารอาหารที่จำเป็นต่อไก่ไข่ ก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์มากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ วัตถุดิบที่นำมาใช้จะต้องเหมาะสมทั้งในเรื่องของ ราคา ปริมาณ และคุณภาพของสารอาหารที่ให้ โดยทางทีมงานอีสานร้อยแปด จะแบ่งให้ทุกคนดูง่ายๆ เป็น สารอาหาร 6 ประเภทใหญ่ๆ

    • โปรตีน ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อในการเจริญเติบโตซ่อมแซมรักษา ในอาหารไก่ไข่ควรจะมีโปรตีนประมาณ13-19%
    • คาร์โบไฮเดรต มีหน้าที่ให้พลังงาน ให้ความอบอุ่น และเพื่อนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ควรจะมีอยู่ในอาหารไก่ไข่ประมาณ38-61%
    • น้ำ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ช่วยในการย่อย การดูดซึม รักษาอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย
    • ไขมัน มีหน้าทีให้ความอบอุ่นและพลังงานแก่ร่างกาย แต่ไม่ควรมากเกินไป
    • วิตามิน ช่วยให้ไก่มีความต้านทานโรค และบำรุงระบบประสาท
    • แร่ธาตุ ช่วยในการสร้างโครงกระดูก สร้างเลือด สร้างเปลือกไข่
  2. ชนิดของอาหารที่ใช้เลี้ยงไก่ไข่

    • อาหารผสม เป็นอาหารผสมจากวัตถุดิบที่บดละเอียดแล้วหลายๆ อย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน สามารถนำไปเลี้ยงไก่ได้ทันที
    • หัวอาหาร เป็นอาหารเข้มข้นที่ผสมจากวัตถุดิบพวกโปรตีนจากพืช สัตว์ ไวตามิน แร่ธาตุ และยาต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมและลดต้นทุนค่าอาหาร
    • อาหารอัดเม็ด เป็นอาหารสำเร็จรูปมีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับอายุของไก่
    • อาหารเสริม เป็นอาหารที่นำไปเสริมเพื่อเพิ่มสารอาหารด้านต่าง ๆ ที่ยังขาด เพื่อให้ไก่ได้รับสารอาหารครบถ้วน
  3. โรงเรือนในการเลี้ยงไก่ไข่

    • ป้องกันแดด ลม และฝนได้
    • แข็งแรง ทนทาน ป้องกัน นก หนู แมว หรือสุนัขได้
    • ทำความสะอาดได้ง่าย
    • ห่างจากชุมชน และอยู่ใต้ลมของบ้าน เพราะจะได้ไม่มีกลิ่นรบกวน
    • ใช้วัสดุที่หาง่าย ราคาถูก
    • ถ้าสร้างหลายหลังควรมีระยะห่างมากกว่า 10 เมตร เพื่อให้ระบายอากาศได้ดีและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
  4. แบบโรงเรือนในการเลี้ยงไก่ไข่ ลักษณะของโรงเรือนไก่ไข่จะมีหลายแบบขึ้นอยู่กับงบประมาณ วัสดุ ความยากง่ายในการสร้าง รูปแบบของโรงเรือนไก่ไข่มีดังนี้

    • แบบเพิงหมาแหงน แบบนี้จะสร้างง่าย ลงทุนน้อย แต่จะมีข้อเสียคือฝนอาจจะสาดเข้าทางด้านหน้าได้ง่าย และมีความแข็งแรงน้อย
    • แบบหน้าจั่วชั้นเดียว ข้อดีคือแข็งแรงกว่าแบบเพิงหมาแหงน สามารถป้องกันแดด ลม ฝนได้ดีกว่า แต่จะมีค่าวัสดุ อุปกรณ์ และค่าก่อสร้างมากกว่าแบบเพิงหมาแหงน เพราะรูปแบบมีความซับซ้อนมากกว่า
    • แบบหน้าจั่วสองชั้น แบบนี้จะคล้าย ๆ กับหน้าจั่วชั้นเดียว แต่จะต่างกันตรงที่มีหน้าจั่วชั้นที่ 2 เพิ่งขึ้นมาเพื่อช่วยระบายอากาศ ทำให้แบบนี้จะระบายความร้อนได้ดีและเย็นกว่าแบบหน้าจั่วชั้นเดียว แต่ก็จะมีค่าก่อสร้างแพงกว่าหน้าจั่วชั้นเดียว
    • แบบหน้าจั่วกลาย คล้ายเพิงหมาแหงน แต่สามารถกันฝนได้ดีกว่า และมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมากกว่าเพิงหมาแหงน
    • แบบเพิงหมาแหงนกลาย แบบนี้จะมีกว่าเพิงหมาแหงนและแบบหน้าจั่ว เพราะมีการระบายอากาศ และกันฝน กันแดดได้ดีกว่า แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าแบบหน้าจั่ว
  5. ปรับปรุงซ่อมโรงเรือนเลี้ยงไก่โดยการทำความสะอาดโรงเรือน กวาดขี้ไก่ และโรยแกลบชุดใหม่

  6. สอบถามราคาพันธ์ไก่ไข่ อุปกรณ์เลี้ยงไก่ไข่ และอาหารไก่ไข่ตามร้านค้า
  7. ซื้อพันธุ์ไก่ไข่ จำนวน 25 ตัว ตัวละ200บาท
  8. ซื้ออุปกรณ์เลี้ยงไก่ไข่จากร้านค้าในชุมชน
  9. ซื้ออาหารไก่ไข่จากร้านค้าในชุมชน
  10. นำผลผลิตไข่ไก่สงสหกรณ์โรงเรียนเพื่่อจำหน่ายให้กับโครงการอาหารกลางวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูง 2 คนให้คำแนะนำวิธีการเลี้ยงไก่ไข่แก่นัเรียนแกนนำ
  2. โรงเรียนเลี้ยงไก่ไข่ 25  โดยมีผลผลิตจากไก่ไข่ ทุกวัน 25 ฟอง
  3. มีนักเรียนเลี้ยงไก่ไข่  30 คน มีครูที่ปรึกษา 2 คน

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนมีไข่ไก่ รับประทานในโครงการอาหารกลางวัน
  2. นักเรียนได้ประสบการณ์จริง ในการปฏิบัติกิจกรรม
  3. นักเรียนมีความรู้ในเรื่องการเลี้ยงไก่ไข่ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 4  โรงเรียนมีการบูรณาการ การเรียนการสอนในกิจกรรม ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
ทำปุ๋ยน้ำชีวภาพ ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 23 ธ.ค. 59 น. @6 มี.ค. 60 03:20
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้้าที่ฝ่ายงานรักษาให้ความรู้การทำปุ๋น้ำชีวภาพแก่นักเรียนสายป. 5
  2. อธิบายขั้นตอนการทำ วัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้และประโยนช์ของน้ำหมักชีวภาพ
  3. สาธิตการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ
  4. นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง
  5. นักเรียนนำน้ำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน ◦เทในลำคลอง ◦ผสมน้ำรดน้ำต้นไม้ ◦ล้างส้วม ◦ล้างพื้นโรงอาหาร ◦เทลงท่อระบายน้ำบ
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. มีนักเรียนแกนนำในการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพจำนวน 100 คน ครูที่ปรึกษา 5 คน ฝ่ายพัฒนาชุมชน เชตสะพานสูง 2 คน
  2. มีปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพจำนวน 100 ขวด ใช้ทำความสะอาดแทนน้ำยาสารเคมี

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนได้รับความรู้ถงประโบนช์และขั้นตอนในการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ
  2. ได้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพแทนน้ำยาท่ีผลมสารเคมี
  3. นำไปเทในลำคลองทำให้น้ำในลำคลองใสขึ้นและเพิ่ออกซิเจนในน้ำ
  4. ใช้รดผลสมน้ำรดน้ำต้นไม้ทำให้ต้นไม้เจริญงอกงามดี
  5. น้ำไปล้างพื้นโรงอาหาร ล้างส้วม ล้างท่อระบายน้ำสะอาดดีไม่มีกลิ่นเหม็น
  6. นำไปจำหน่ายเพิ่มรายได้
ทำน้ำยาล้างจาน ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 19 ธ.ค. 59 น. @6 มี.ค. 60 03:33
รายละเอียด:
  1. ศึกษาวิธีการทำน้ำยาล้างจาน
  2. สำรวจจราคาวัสดุในการทำน้ำยาล้างจานจากร้านค้า
  3. ซื้อเอ็น 70 เกลือ สับปะรด มะนาว มะกรูด
  4. แบ่งนักเรียนลงมือปฏิบัติจรงการทำน้ำยาล้างจานร่วมกับแม่ครัว
  5. นำผลผลิตท่ีได้ส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่ายให้กับโตรงการอาหารกลางวันเพื่อให้แม่ครัวนำไปล้างจาน
    กิจกรรมที่ปฎิบัติจริง

จำนวนคน/ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจริง 0 คน

รายละเอียดกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม

รายละเอียดขั้นตอน กระบวนการ กิจกรรมปฎิบัติจริง

  1. ศึกษาวิธีการทำน้ำยาล้างจาน
  2. สำรวจจราคาวัสดุในการทำน้ำยาล้างจานจากร้านค้า
  3. ซื้อเอ็น 70 เกลือ สับปะรด มะนาว มะกรูด
  4. แบ่งนักเรียนลงมือปฏิบัติจรงการทำน้ำยาล้างจานร่วมกับแม่ครัว
  5. นำผลผลิตท่ีได้ส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่ายให้กับโตรงการอาหารกลางวันเพื่อให้แม่ครัวนำไปล้างจาน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

ผลผลิต 1. นัเรียนที่ทำน้ำยาล้างจาน 10  คน ครูที่ปรึกษา 1 คน 2. ได้น้ำยาล้างจาน 15 ลิตร/ 1ชุด

ผลลัพธ์ 1. น้ำยาล้างจานสมุนไพรมีประสิธิภาพในการล้างจานดี 2. นักเรียนมีความรู้สามารถผลิตน้ำยาล้างจานได้ 3. โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ในการผลิตน้ำยาสมุนไพร 4. สามารถนำใปใช้ในครัวเรือน 5. สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว

การพัฒนาบุคคลากรด้านการส่งเสริมการพัฒนาสุขนิสัยให้นักเรียนhubsoh เมื่อ 1 ธ.ค. 59 น. @12 มี.ค. 60 23:55
รายละเอียด:
  1. พยาบาลสาธารณสุข 68 สะพานสูงให้ความรู้เรื่องสุขบัญญัติ
  2. สาธฺิตการล้างมือและนักเรียนปฏิบัติตาม
  3. นักเรียนแปรงฟันหลังอาหาร
  4. พัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการส่งเสริมการพัฒนาสุขนิสัยให้นักเรียน

    • ทำหนังสือเรียนเชิญพยาบาลอนามัย ศูนย์ 68 สะพานสูงให้ความรู้การส่งเสริมการพัฒนาสุขนิสัยแก่นักเรียนด้านการล้างมือ แก่ครู
    • ครูทุกคนเข้ารับการอบรม
    • พยาบาลอนามัยสาธิตการล้าง 7 ขั้นตอน ครูฝึกปฏิบัติตาม
  5. พยาบาลอนามัย ศูนย์ 68 สะพานสูง เขตสพะานสูง กทม. กำจัดเหาให้นักเรียน

  6. เจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกอาชีพ เขตสะพานสูง ตัดผมให้แก่นักเรียนผมยาว
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต
1. ครูและบุคลากรมีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนา สุขนิสัยให้กับนักเรียน 2. นักเรียนที่เป็นเหาได้รับ กำจัดเหาทุกเดือน
3. นัเรียนชายได้ตัดผม

ผลลัพท์
1. นักเรียนได้รับการดูแล ให้มีสุขนิสัยที่ดีมากขึ้น
2. สถิตินักเรียนเป็นเหา เหลือ 1 % ของจำนวนนักเรียนที่เป็นเหา
3. นักเรียนมีทรงผมทรงนักเรียนถูกต้องตามกฎระเบียบ 4. นัเรียนุกคนปฏิบัติการล้างมือที่ถูกต้อง 7 ขั้นตอน 5. ครูได้รับความรู้พัฒนาตนเองเพิ่มขึ้น

การเพาะถั่วงอก ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 1 ธ.ค. 59 น. @5 มี.ค. 60 18:33
รายละเอียด:
  1. ครูให้ความรู้ แนะนำวิธีการเพาะถั่วงอก พร้อมสาธิต
  2. ซื้อเมล็ดถั่วเขียว ดินเพาะปลูก ตะกร้าเพาะปลูก
  3. แบ่งกลุมนักเรียนลงมือปฏิบัติจรงในการเพาะและการดูแลต้นถั่วงอก
    • นำถั่วเขียวล้างน้ำให้สะอาด 2-3 ครั้ง
    • แช่ถั่วเขียวในน้ำอุ่น ทิ้วไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
    • วางตะแกรงในถังและวางตะแกรงในล่อนทับ
    • โรยเมล็ดถั่วบนตะแกรงในล่อน
    • นำตะแกรงวาทับเมล็ดถั่วเขียวชั้นท่ี 1-3 แล้วปิดตะแกรงด้านบนอีกครั้ง
    • เครื่องเพาะจะปล่อยระบบน้ำอัตโนมัติทุก 2 ชั่วโมง
    • รอประมาณ 3 วันก็จะได้ถั่วงอกปลอดสารพิษ
  4. นำผลผลิตส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวัน
  5. ผลผลิตบางส่วนขายครู บุคคลากรในโรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. นักเรียนจำนวน 100 คนได้รับความรู้ในการเพาะถั่วงอกปลอดสารพิษซึ่งมีครู 6 คนและฝ่านพัฒนาชุมฃนเขสะพานสูง 3 คนให้คำปรึกษา
  2. ได้ถั่วงอกปลอดสารพิษ 30 กก./ถังในการประกอบอาหารสู่โครงการอาหารกลางวัน

ผลลัพธ์ 1. นักเรียนสามารถเพาะถั่วงอกปลอดสารพิษได้ 2. นักเรียนได้รับประทานอาหารปลอดสารพิษ 3. นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรง 4. นักเรียนนำความรู้ในการเพาะถั่วงอกปลอดสารพิษไปต่อยอดในชีวิตประจำวัน 5. นักเรียนมีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้แก่ครอบครัว

การปลูกผักสวนครัว ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 1 ธ.ค. 59 น. @5 มี.ค. 60 19:28
รายละเอียด:
  1. การให้ความรู้

    • ครูนำเสนอความหมายของ การปลูกพืชผักสวนครัว หน้ากระดาน
    • แบ่งกลุ่มนักเรียนตามความสมัครใจ กลุ่มละ 5 – 6 คน
    • ครูให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพื่อบอกความสำคัญของการปลูกผักสวนครัว
    • นักเรียนสำรวจผักสวนครัวในท้องถิ่น ที่สามารถนำไปปลูกได้ แล้วเขียนสรุปเป็นผังความคิด
    • ครูให้นักเรียนทำใบงานเรื่อง ความหมายและความสำคัญของการปลูกผักสวนครัว
  2. การเตรียมดินปลูกผักปลอดสารพิษ
    2.1 วิธีการเตรียมดิน การเตรียมดิน หมายถึง การปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการ ปลูกพืชแต่ละชนิด การเตรียมดินนั้นมี 2 อย่าง คือ การเตรียมดินแปลงเพาะเพื่อเพาะกล้า และ การเตรียมดินเพื่อปลูก การเตรียมดินเพื่อเพาะกล้าจะต้องเตรียมดินให้ละเอียดมากกว่า และต้องดูแลมากกว่าการเตรียมดินเพื่อปลูกพืช วิธีการเตรียมดินมีขั้นตอนดังนี้

    • กำจัดวัชพืช โดยเก็บเศษวัสดุต่างๆออกจากหน้าดินให้หมด แล้วใช้จอบถาก หรือมีดฟันหญ้า ถ้าวัชพืชอยู่ลึกต้องใช้เสียมหรือพลั่วมือขุดออก
    • กำหนดพื้นที่ปลูก สำหรับแปลงปลูกผักต้องใช้ไม้ปัก 4 มุม โดยวัดความกว้างยาวได้ตามต้องการ
    • ขุดดินบริเวณที่กำหนดไว้ ถ้าเป็นแปลงผักควรขุดดินลึกประมาณ 15 เซนติเมตร พลิกดินด้านล่างขึ้นมาด้านบน ตากไว้ให้แห้ง 2-3 วัน แล้วจึงย่อยดินให้ขนาดเล็กลง และเก็บเศษวัชพืชที่ยัง ค้างอยู่ในดินออกทิ้ง
    • ตกแต่งร่องให้เป็นรูปทรงตามที่กำหนด พรวนดินอีกครั้ง ถ้าดินเป็นกรดใส่ปูนขาว โรยบางๆผสมคลุกเคล้าพร้อมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  3. การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ

    • เตรียมเมล็ดพันธ์ที่จะลงปลูกให้นักเรียนได้ลงมือทำ
    • ครูให้นักเรียนปลูกผักปลอดสารพิษได้แก่ ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ชะอมมะนาว คะน้า กล้วย โหระพา กระเพรา มะกรูด มะเขือ พริก
    • นักเรียนดูแลรักษาพืชผักที่ปลูก รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย
  4. นักเรียนเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้จากการปลูก นำส่งโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนและเสริมสร้างรายได้แก่นักเรียนและจำหน่ายไปยังตลาดนัดนักเรียน

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

ผลผลิต
1. นักเรียนปลูกผักสวนครัว 30 คน ครูที่ปรึกษา 2 คน ฝ่ายัฒนาชุมขนเขตสะพานสูง 3 คน 2. ได้ผักสวนครัวปลอดสารพิษในการประกอบอาหารกลางวัน 3. แกนนำนักเรียนได้นำความรู้ในการปลูกพืชสวนครัวไปขยายผลต่อในครอบครัว

ผลลัพธ์ 1. มีสวนครัวปลอดสารพิษสงสหกรณ์โรงเรียนและต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวัน 2. นักเรียนได้นำความรู้ในการปลูกพืชสวนครัวไปขยายผลต่อในครอบครัว 3. โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ในการปลูกสวนครัวปลอดสารพิษแก่ชุมชน 4. นักเรียนได้รับผักที่มีประโยชน์ไม่มีสารปนเปื้อน

การเพาะต้นอ่อนทานตะวัน ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 30 พ.ย. 59 น. @5 มี.ค. 60 06:52
รายละเอียด:

รายละเอียดการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน

  1. ศึกษาวิธีการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน
  2. ซื้อเมล็ดทานตะวัน ดินเพาะปลูก ตะกร้าเพาะปลูก
  3. แบ่งกลุมนักเรียนในการเพาะและการดูแลต้นอ่อน

    • เตรียมวัสดุเพาะ ได้แก่ขุยมะพร้าวอ่อน ขี้เถ้าแกลบร่อน กับดินร่วน 1 ต่อ1 ผสมเข้ากัน
    • แช่เมล็ดทานตะวันในน้ำอุ่นทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
    • นำเมล็ดทานตะวันห่อด้วยผ้าขาวบางบ่มไว้ประมาณ 2 วัน รากออกเป็นตุ่มขาว ๆ
    • นำวัสดุใส่ตะกร้าที่มีรูตาถี่ ๆ ประมาณ 3/4 ของภาชนะ
    • โรยเมล็ดทานตะวันแล้วเกลี่ยให้ทั่ว โรยขุยมะพร้าวเกลี่ยให้ทั่วอีกครั้งนำไปวางไว้ในที่ร่ม
    • รดน้ำทุกวันเมื่อต้นอ่อนทานตะวันเจริญเติบโดประมาณ 4-5 วันสามารถตัดผลผลิตได้
  4. นำผลผลิตท่ีได้นำส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่ายให้แก่โครงการอาหารกลางวัน

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

ผลผลิต -นักเรียนจำนวน  100  คน เข้าร่วมกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ  50
-ครูและบุคลากรจำนวน  2  คน เข้าร่วมกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ  100 -จัดทำเพาะต้นอ่อนทานตะวันจำนวน  10  ถาด

ผลลัพธ์

1.ได้ต้นอ่อนทานตะวันจำนวน 20  กิโลกรัม 2. นักเรียนได้รับประทานต้นอ่อนทานตะวันปลอดสารพิษ 3. นักเรียนแกนนำที่รับผิดชอบในการเพาะต้นอ่อนทานตะวันมีความรู้ทักษะในการเพาะต้นอ่อนทานตะวันและสามารถนำไปเพาะได้ด้วยต้นเองร้อยละ  85
4. นักเรียน ครู ผู้ปกครองมีความพึงพอใจร้อยละ 80

ทำแผนจัดการเรียนรู้บูรณาการhubsoh เมื่อ 28 พ.ย. 59 น. @18 มี.ค. 60 07:18
รายละเอียด:
  1. ประชุมครูเพื่อนำเสนอแนวทางการดำเนินงานของโครงการศูนย์การเรียนรู้เด็กไทยแก้มใส
  2. หน้าสายประชุมเพื่อทำกำหนดการสอนโดยบูรณาการ 8 กลุ่มสาระ
  3. ร่วมกันแบ่งเนื้อหาในแต่ละสายชั้นโดยให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเกษตรในโรงเรียน
    • สายป.1-2 เรียนเรื่อง ถั่วงอก
    • สายป.3-4 เรียนเรื่อง ต้นอ่านทานตะวัน
    • สายป.5-6 เรียนเรื่อง ผักไฮโดรโปรนิกส์ น้ำสมุนไพร
    • สายมัธยม เรียนเรื่อง การเลี้ยงปลาดุก ผักสวนครัว
  4. ครูแต่สายจัดทำแผนกจัดการเรียนรู้บูรณาการพร้อมแบบฝึก
  5. นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง
  6. เผยแพร่และขายผลสูโรงเรียนเครือข่าย
  7. จัดนิทรรศการท่ีโรงแรมเซียรังสิต ปาร์ค
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

คณะครูสายอนุบาล - สายมัธยมศึกษา ร่วมกันทำแผนจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการสอนเกษตร โภชนา การและสุขภาพอนามัย จำนวน 8 แฟ้ม

ผลลัพท์
1. นักเรียนมีความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับเกษตร โภชนาการ และ การดูแลสุขภาพอนามัย
2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการ ปฏิบัติตนให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี
3. โรงเรียนมีการเผยแพร่และขยายผลสู่โรงเรียนใกล้เคียงและชุมชนหรือผู้ปกครองนักเรียน
4. ครูมีแผนจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ 5. นักเรียนนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน

การประชุมภาคีเครือข่ายhubsoh เมื่อ 28 พ.ย. 59 น. @12 มี.ค. 60 17:18
รายละเอียด:
  1. ประชุมกรรมการสถานศึกษาร่วมกันวางแผนการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส
  2. ประชุมเครือข่ายผู้ปกครองร่วมกันดำเนินการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส
  3. ประชุมผู้ปกครองร่วมกันดำเนินการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส
  4. ประชุมขยายผลเครือข่ายครูเกษตรของแต่ละโรงเรียนในเขตสะพานสูง
  5. จัดเลี้ียงอาหารว่างและอาหารกลาวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. กรรมการสถานศึกษา10 คน ร่วมกันวางแผนการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส
  2. เครือข่ายผู้ปกครอง 20 คนร่วมกันวางแผนดำเนินการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส
  3. ผู้ปกครองนักเรียน 60 คนร่วมกันวางแผนดำเนินการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส
  4. ครูเกษตรของแต่ละโรงเรียนและคณะครู  10  คนในเขตสะพานสูงเข้าใจแนวทางการปฏิบัติการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส

ผลลัพธ์

  1. กรรมการสถานศึกษาเครือข่ายผู้ปกครองผู้ปกครองนักเรียน เข้าใจวิธี แนวทางการปฏิบัติการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส พร้อมทั้งให้คำแนะนำ
  2. ครูเกษตรของแต่ละโรงเรียนและคณะครู ในเขตสะพานสูงเป็นเครือข่ายของศูนย์การเรียนรู้โครงการโรงเรียนเด็กไทยแก้มใส
การทำขนมไทยส่งเสริมการขายhubsoh เมื่อ 26 พ.ย. 59 น. @12 มี.ค. 60 17:49
รายละเอียด:
  1. เชิญวิทยากรบรรยาย การทำกล้วยฉาบ และการทำสลัดโรล
  2. นักเรียนสายชั้นประถมศึกษาปีที่5 - มัธยมศึกษาเข้าฟังบรรยายการทำกล้วยฉาบ และการทำสลัดโรล
  3. แบ่งกลุ่มนักเรียนร่วมกิจกรรมปฏิบัติจริงโดยมีครูเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ
  4. ผลผลิตเข้าสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่าย
  5. นำผลงานไปสาธิตและจำหน่ายในการออกร้านที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
  6. สาธิตให้คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนจังหวัดยะลาที่มาดูงานศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนเด็กไทยแก้มใสโรงเรียนสุเหร่าซีรอ (ราษฎร์สามัคคี)
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต นักเรียนสายชั้นประถมศึกษาปีที่5 - มัธยมศึกษาจำนวน 100 คน  ครู 10 คนโดยมีวิทยากรภูมปัญญาท้องถิ่นให้ความรู้ข้ากิจกรรม

ผลลัพทธ์ 1. โรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากการเกษตร 2. โรงเรียนมีผลผลิตกล้วยฉาบ และการทำสลัดโรลส่งสหกรณ์โรงเรียน 3. โรงเรียนป็นแห่งเรียนรู้ด้านเกษตรแก่ชุมชน 4. นักเรียนสามารถนำความรู้ท่ีได้รับไปต่อยอดทำขายเพื่อเพิ่มรานได้แก่ครอบครัว

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 26 พ.ย. 59 น. @4 มี.ค. 60 07:44
รายละเอียด:
  1. ศึกษาวิธีการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์
  2. ครูอธิบายวิธีการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์     2.1 เตรียมฟองน้ำ
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

การเกษตรในโรงเรียนในอีกรูปแบบหนึ่ง  ซึ่งสามารถใช้พื้นที่ในการให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมกับปัจจัยแวดล้อมและบริบทของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร  โดยการปลูกผักผักไฮโดรโปรนิกส์ ไว้หน้าระเบียง เพื่อง่ายต่อการศึกษา  ดูแล  เก็บเกี่ยว  และเป็นแหล่งเรียนรู้ใกล้ห้องเรียน  อีกทั้งยังทำให้สภาพแวดล้อม  บรรยากาศการเรียน  และอาคารเรียนมีความสร้างสรรค์  สวยงาม 1. นักเรียนรับผิดชอบปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ปลอดสารพิษ จำนวน 100คน ครูที่ปรึกษา 2 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน 2 คน 2. ได้ผักไฮโดรโปรนิกส์ปลอดสารพิษในการประกอบอาหาร

ผลสัพธ์ 1. นักเรียนมีความรู้ ทักษะในการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ สามารถขยายผลสู่เครือข่ายได้ 2. นักเรียนนำผลผลิตส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวัน และจำหน่ายให้ผู้ปกครอง บุคคลากรในโรงเรียน 3. นักเรียนนำความรู้ และประสบการณ์ท่ีได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ 4. เป็นอาชีพเสริมเพ่มรายได้แก่ครอบครัว

ตกแต่งห้องพยาบาลhubsoh เมื่อ 24 พ.ย. 59 น. @12 มี.ค. 60 00:30
รายละเอียด:
  1. จักตกแต่งห้องพยาลให้ได้มาตรฐาน
    • ทำฝ้าเพดานห้อง
    • เพิ่มแสงสว่างติดไฟดาวไลท์
    • ปูกระเบื้องห้องพยาบาล
  2. สำรวจวัสดุอุปกรณ์ ยาสามัญประจำบ้านหมออายุหรือไม่
  3. ซื้อยาวัสดุอุปกรณ์ ยาสามัญประจำบ้านเพิ่ม และแจกตามสายชั้นเรียนโดยให้หัวหน้าสายรับผิดชอบ
  4. จัดทำไวนิวเสริมความรู้
  5. จัดซื้อผ้าปูที่นอน หมอนพร้อมปลอกหมอนเพิ่ม
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. ห้องพยาบาลสะอาด สวยงาม ได้มาตรฐาน
  2. จัดซื้อยาสามัญประจำบ้าน จำนวน  20 ขุด
  3. ทำป้ายไวนิลตกแต่งจำนวน 8 ป้าย

ผลลัพท์

  1. โรงเรียนมีห้องพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
  2. ห้องพยาบาลมียาสามัญประจำบ้านที่มีคุณภาพ
  3. ห้องพยาบาลเป็นแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน
ทำยาล้างมือยากำจัดเหาสมุนไพรมะกรูดhubsoh เมื่อ 1 ก.ย. 59 น. @19 พ.ย. 59 12:36
รายละเอียด:
  1. ครูประจำชั้นให้ความรู้บูรณการในวิชาสุขศึกษา เรื่องการล้างมือ สุขบัญญัติ 10 ประการ การใช้ช้อนกลาง การแปรงฟัน การอาบน้ำสระผม
  2. ครูตรวจสุขภาพ เล็บ เหาผม ฟันนักเรียน
  3. นักเรียนแกนนำอสม. ทำการตรวจเหา แลใส่ยากำจัดเหา
  4. ครูและนักเรียนแกนนำช่วยกันทำน้ำยาล้างมือและนำยากำจัดเหาสมุนไพรมะกรูด
  5. เจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกอาชีพ แผนกการตัดผม สำนักงานเขตสะพานสูง ทำการตัดผมให้นักเรียน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. มีนักเรียนแกนนำจำนวน 10 คน ตรวจเหานักเรียน พยาบาอนามัย จำนวน 5 คนตรวจสุขภาพ ตรวจเหา
  2. เจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกอาชีพ เขตสะพานสูง จำนวน 20 คน แผนกการตัดผม สำนักงานเขตสะพานสูงร่วมกิจกรรมตัดผมให้นักเรียน
  3. ทำยากำจัดเหาสมุนไพร

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนได้รับความรู้จากการเรียนวิชาสุขศึกษานำมาต่อยอดดูแลสุขภาพเพื่่อน ๆ และน้อง ๆได้
  2. ได้ผลิตภัณฑ์น้ำยากจัดเหาสมุนไพรแทนน้ำยากำจัดเหาท่ีผสมสารเคมี
  3. นัเรียนผมสั้นถูกระเบียบของโรงเรียน
การเลี้ยงปลาดุก ครั้งที่2hubsoh เมื่อ 26 พ.ย. 59 น. @4 มี.ค. 60 07:04
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน สำนักงานเขตสะพานสูงให้ความรู้นักเรียนแกนนำในการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินและในวงซีเมนท์
  2. เตรียมสถานที่ อถปกรณ์วัสดุและอาหาร ในการใช้เลี้ยงปลาดุกในบ่อดินและในบ่อวงซีเมนท์
  3. ซื้อพนธ์ปลาดุกที่มีความแข็งแรงและไม่เล็กเกินไปขนาดประมาณ 2 นิ้ว ปลาดุกรัสเซีย 100 ตัวๆละ 3 บาท เป็นเงิน 300 บาท
  4. ซื้ออาหารปลาเล็ก 2 กระสอบ ๆละ 480 บาท เป็นเงิน 950 บาท
  5. ซื้ออาหารปลาโต 2 กระสอบ ๆ ละ 520 บาท เป็นเงิน 1,040 บาท
  6. ซื้อตาข่ายปิดปากบ่อ 10 เมตร ๆ ละ 20 บาท เป็นเงิน 200 บาท
  7. เจ้าหน้าท่ีฝ่านพัฒนาชุมชน สำนักงานเขตสะพานสูงอธิบาย การล้างบ่อซีเมนท์ และระดับน้ำในการเลี้ยงปลาดุกต้องมีการถายเทน้ำให้สะอาดไม่ให้น้ำขุ่น เพราะถ้าน้ำขุ่นหรือสกปรกจะเกิดขึ้นจากอาหารตกค้างจะทำให้ปลาดุกตายได้อาการจากคุณภาพน้ำไม่ดีจะสังเกตได้จากปลาท่ีว่ายน้ำขึ้นลงเร็วหว่าปกติ และจะลอยอยู่เหนือน้ำ เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าน้ำกำลงสกกปรกควรเปลี่ยนน้ำทันที
  8. นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง
  9. นำผลผลิตปลาดุกส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวันต่อไป
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. ผลผลิตปลาดุกจำนวน 500ตัว
  2. นักเรียนแกนนำ 100 คน ได้รับความรู้การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินและบ่อวงซีเมนท์ จากเจ้าหน้าที่ 3 คน จากฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูง

ผลลัพท์

  1. นักเรียนแกนนำมีความรู้และทักษะในการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินและบ่อวงซีเมนท์
  2. นักเรียนแกนนำได้ลงมือปฏิบัติในการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินและบ่อวงซีเมนท์
  3. โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้การเลี้ยงปลาดุกในบ่อวงซีเมนท์แก่ชุมชน
  4. นำผลผลิตปลาดุกส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวันต่อไป
ซื้ออุปกรณ์การออกกำลังกายhubsoh เมื่อ 3 ส.ค. 59 น. @20 พ.ย. 59 11:03
รายละเอียด:

การทดสอบสมรรถภาพและการออกกำลังกาย

  1. ครูพลศึกษาทดสอบสมรรถภาพนักเรียนปีละ 1ครั้ง
  2. นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาน้ำหหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน) ออกกำลังกายโดยปั่นจักรลดพุง
  3. นักเรียนที่ภาวโภชนาการน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)ออกกำลังกายก่อนเรียนวิชาพลศึกษา
  4. นักเรียนออกกำลังกายยามเช้าก่อนเข้าเรียนทุกวันพุุธ
  5. พยาบาลศูนย์สาธารสุข 68 สะพานสูงได้ตรวจสุภาพนักเรียนทุกคน
  6. ปรับปรุงห้องพยาบาลให้ได้มาตรฐาน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. ทดสอบสมรรถภาพนักเรียนปีละ 1 ครั้ง
  2. นักเรียนที่มีภาวะโภชนาการน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)ทำกิจกรรมออกกำลังกายเด็กไทยไร้พุง
  3. พยาบาลศูนย์สาธารสุข 68 สะพานสูงได้ตรวจสุภาพนักเรียนทุกคน
  4. ปรับปรุงห้องพยาบาลให้ได้มาตรฐาน

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรงผ่านการทดสอบ
  2. นักเรียนที่มีภาวะโภชนาการน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน) ลดลง
  3. นักเรียนสุขภาพแข็งแรง
  4. ห้องพยาบาลได้มาตรฐาน สวยงาม สะอาดและส่งเสริมความรู้
ทำโครงงาน เกษตร โภชนาการ สุขภาพอนามัยhubsoh เมื่อ 3 ต.ค. 59 น. @18 มี.ค. 60 07:50
รายละเอียด:
  1. ประชุมครูเพื่อนำเสนอแนวทางการดำเนินงานของโครงการศูนย์การเรียนรู้เด็กไทยแก้มใส
  2. หน้าสายประชุมเพื่อทำกำหนดการสอนโดยบูรณาการ 8 กลุ่มสาระ 3แบ่งเนื้อหาในแต่ละสายชั้นโดยให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเกษตรในโรงเรียน
    • สายป.1-2 เรียนเรื่อง ถั่วงอก
    • สายป.3-4 เรียนเรื่อง ต้นอ่านทานตะวัน
    • สายป.5-6 เรียนเรื่อง ผักไฮโดรโปรนิกส์ น้ำสมุนไพร
    • สายมัธยม เรียนเรื่อง การเลี้ยงปลาดุก ผักสวนครัว
  3. ครูแต่สายจัดทำแผนกจัดการเรียนรู้บูรณาการพร้อมแบบฝึก
  4. นักเรียนลงมือปฏิบัติจริงการทำโครงงาน
    • ทำโครงงานทำน้ำยากำจัดเหา โครงงานขมนปุยฝ้าย โครงงานทำยาดมสมุนไพร โครงงานการเพาถั่วงอก ต้นอ่อนทานตะวัน
  5. เผยแพร่และขายผลสูโรงเรียนเครือข่าย
  6. จัดนิทรรศการท่ีโรงแรมเซียรังสิต ปาร์ค มหาวิทยาลัยศรีนครินทรืวิโรฒประสานมิตร

  7. ร่วมกันแบ่งเนื้อหาในแต่ละสายชั้นโดยให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเกษตรในโรงเรียน 3.1 สายป.1-2 เรียนเรื่อง ถั่วงอก
    3.2 สายป.3-4 เรียนเรื่อง ต้นอ่านทานตะวัน 3.3 สายป.5-6 เรียนเรื่อง ผักไฮโดรโปรนิกส์ น้ำสมุนไพร 3.4 สายมัธยม เรียนเรื่อง การเลี้ยงปลาดุก ผักสวนครัว

  8. ครูแต่สายจัดทำแผนกจัดการเรียนรู้บูรณาการพร้อมแบบฝึก
  9. นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง
  10. เผยแพร่และขยายผลสูโรงเรียนเครือข่าย
  11. จัดนิทรรศการท่ีโรงแรมเซียรังสิต ปาร์ค
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต นักเรียนทำโครงงานทำน้ำยากำจัดเหา โครงงานขมนปุยฝ้าย โครงงานทำยาดมสมุนไพร โครงงานการเพาถั่วงอก ต้นอ่อนทานตะวัน รวม 5 โครงการ ซึ่งมีครูเป็นที่ปรึกษา 5 คน ผลลัพธ์ 1. มีแผนจัดการเรียนรู้การเกษตร โภชนาการและสุขภาพเพื่อประกอบการเรียนการสอนนักเรียน 2. มีโครงงานด้านการเกษตร โภชนาการและสุขภาพ 3. นักเรียนรู้จักคิด แก้ปัญหา อย่างเป็นระบบ 4.ได้ขยายเครือข่ายและจัดนิทรรศการ

การบันทึกสุขภาพhubsoh เมื่อ 3 ส.ค. 59 น. @20 พ.ย. 59 00:39
รายละเอียด:
  1. ชั่งนำหนัก-วัดส่วนสูงนักเรียนทุกคนบันทึกในสมุดบันทึกน้ำหนัก-วัดส่วนสูงภาคเรียนละ 2 ครั้ง
  2. นำข้อมูลน้ำหนัก-ส่วนสูงไปวิเคราะห์เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย
  3. บันทึกรายชื่อนักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)
  4. นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)ทำกิจกรรมเด็กไทยไร้พุง
  5. ให้ความรู้ผู้ปกครอง นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต ปีการศึกษา 2559 ภาคเรียนที่ 2 เมื่อเปรียบเทียบ ปรากฎว่า 1. เตี้ย ลดลง 0.22
2. ผอม ลดลง 0.71 3. อ้วน  เพิ่มขึ้น 1.23 4. อ้วน-เริ่มอ้วน เพิ่มขึ้น 1.37

ผลลัพธ์ 1. ได้รับทราบจำนวนนักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม) 2. นักเรียนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วน)และน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน(ผอม)ได้รับการช่วยเหลือเข้าร่วมกิจกรรมเด็กไทยไร้พุงเพื่อให้มีจำนวนลดน้อยลงและมีน้ำได้เกณฑ์มาตรฐาน 3. ผู้ปกครอง และนักเรียนท่ีมีปัญหาภาวะทุพโภชนการได้รับความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัตนในชีวิตประจำวัน การเลือกรับประทานอาหาร การดูแลสุขภาพ

การอบรมทำดอกไม้พลาสติกและยาดมสมุนไพรhubsoh เมื่อ 11 ก.ค. 59 น. @20 พ.ย. 59 02:01
รายละเอียด:
  1. เชิญวิทยากรบรรยาย
  2. นักเรียนสายชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เข้าฟังบรรยาย
  3. แบ่งกลุ่มนักเรียนร่วมกิจกรรมปฏิบัติจริงโดยมีครูเป็นพ่ีเลี้ยงคอยให้คำแนะนำ
  4. ผลผลิตเข้าสหกรณ์เพื่อจำหน่าย
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. นักเรียนจำนวน 30 เข้าอบรมการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายในครัวเรือน
  2. วิทยากร 2 คนให้ความรู้ ทำดอกไม้พลาสติก และยาดมสมุนไพร


    ผลลัพธ์

  3. นักเรียนได้รัยความรู้ในการทำบัญชีในครัวเรือน

  4. นักเรียนได้รับความรู้ในการทำดอกไม้พลาสติก และยาดมสมุนไพร
  5. เป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ต่อครอบครัว 
การเพาะเห็ดนางฟ้าhubsoh เมื่อ 5 ก.ค. 59 น. @29 ต.ค. 59 21:59
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้าท่ีฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูง ให้ความรู้ คำแนะนำศึกษาวิธีการเพาะเห็นนางฟ้าดังนี้

    • ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเห็ดการวางก้อนเชื้อในลักษณะแนวนอนโดยวางเรียงต่อกันเป็นแนวและวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ
    • การเปิดดอก โดยเปิดจุกและสำลีจากคอขวดออกและพับปากถุงให้เหมือนเดิมกับตอนที่ยังมีจุกคอขวดอยู่เพื่อจะทำให้เก็บดอกเห็ดได้ง่าย
    • การรดน้ำ ควรพ่นให้ผิวหน้าของก้อนเชื้อชื้นก็พอ เพราะจะทำให้ก้อนเชื้อมีเชื้อราจะเน่าเสียเร็ว การรดน้ำประมาณวันละ 3-4 ครั้งแล้วแต่สภาพอากาศ
    • การเก็บดอกเห็ดและการทำความสะอาดหน้าก้อนเห็ด เมื่อเห็ดออกดอกและบานจนได้ขนาดที่ต้องการแล้วเก็บดอกโดยจับที่โคนดอกทั้งช่อโยกซ้ายขวาบนล่างแล้วดึงออกจากถุงเห็ด ระวังอย่าให้ถุงเห็ดบาน ถ้าโคนเห็ดขาดอยู่ให้แคะออกเพื่อป้องกันการเน่าเสีย การทำความสะอาดก้อนเชื้อทำได้โดยเขี่ยเศษเห็ดที่ติดอยู่ข้างในถุงออกให้หมด และงดให้น้ำ 3 วันถ้าก้อนเห็ดมีเชื้อราให้นำออกทันที
  2. เจ้าหน้าท่ีฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูงสาธิต นักเรียนลงปฏิบัติจริง

  3. สำรวจราคาพันธุ์เห็ดนางฟ้าตามร้านค้า
  4. ซื้้อพันธุ์เห็นางฟ้า
  5. แบ่งกลุ่มนักเรียนรับผิดชอบในการเพาะเห็ดนางฟ้าและดูแลบำรุงรักษา 6.นำผลผลิตเห็ดนางฟ้าส่งสหกรณ์โรงเรียน เพื่อจำหน่ายให้แก่โครงการอาหารกลางวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. นักเรียนจำนวน 30 คน มีความรู้ มีทักษะในการเพาะเห็ดนางฟ้า
  2. นักเรียนจำนวน 30 คน นำความรู้และทักษะไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
  3. นักเรียนแกนนำจำนวน 30 คน ขยายผลความรู้แก่เพื่อนนักเรียนในเรื่องการเพาะเห็ดนางฟ้าได้

ผลผลัพธ์

  1. โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้การเพาะเห็ดนางฟ้าให้กับโรงเรียน และชุมชน
  2. โรงเรียนมีผลผลิตเห็ดนางฟ้านำไปใช้ประกอบอารหารในโครงการอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนทั้งโรงเรียน
  3. โรงเรียนสามารถเชื่อมโยงและบูรณาการการเพาะเห็ดนางฟ้าเข้ากับวิชาเรียนเกษตร กลุ่มสาระการงานอาชีพฯ และจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนทุกระดับชั้น
  4. นักเรียนมีทักษะชีวิตและทักษะการทำงานร่วมกัน
ซ่อมแซมศูนย์การเรียนรู้เศรฐกิจพอเพียงhubsoh เมื่อ 1 ก.ค. 59 น. @6 พ.ย. 59 04:55
รายละเอียด:
  1. ครูและนักการภารโรงซ่อมแซมศูนย์การเรียนรู้เศรฐกิจพอเพียงดังนี้
    • ซ่อมแซมหลังคา
    • ซ่อมแซมพื้น
    • ปรับภูมิทัศน์ศูนย์การเรียนรู้เศรฐกิจพอเพียงโดยงานฝ่ายรักษา เขตสะพานสูง
    • จัดทำป้ายไวนิวฐานการเรียนรู้
  2. จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์จากร้านค้าในชุมชน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

1.  ครูและนักการภารโรงทำการสร้างและซ่อมแซมศูนย์การเรียนรู้เศรฐกิจพอเพียง 2.  ครู นักการภารและฝ่ายรักษา เขตสะพานสูงช่วยปรับภูมิทัศน์ศูนย์การเรียนรู้เศรฐกิจพอเพียง 3.  มีฐานการเรียน 8 ฐาน

ผลลัพธ์ 1. นักเรียนศึกษาค้นคว้าเรียนรู้จากฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ 2. เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรของนักเรียนและชุมชน

การปลูกมะนาวในวงซีเมนท์hubsoh เมื่อ 13 มิ.ย. 59 น. @6 พ.ย. 59 02:41
รายละเอียด:
  1. ศึกษาวิธีการปลูกมะนาวในวงซีเมนท์

    • เจ้าหน้าท่ีฝ่ายพัฒนาชุมชนเขตสะพานสูงให้ความรู้การปลูกมะนาว
    • พันธุ์มะนาว
    • วิธีการปลูกมะนาว
    • โรคที่เกี่่ยวกับมะนาว
    • การดูแลรักษาต้นมะนาว
  2. สอบถามราคาต้นมะนาวตามร้านค้า

  3. ซื้อต้นพันธ์มะนาว
  4. ซื้อวงซีเมนท์พร้อมฝาซีเมนท์
  5. ซื้อดินผสมในการปลูต้นมะนาว
  6. แบ่งนักเรียนช่วยกันปลูกต้นมะนาวและดูแลบำรุงรักษา 7.นำผลผลิตมะนาวส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่ายให้แก่โครงการอาหารกลางวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูง 2 คน ให้ความรู้การปลูกมะนาว
  2. นักเรียน 30 คนรับผิดชอบดูแล รดน้ำ พรวนดิน ซึ่งมีครู 2 คนเป็นที่ปรึกษา

ผลลพธ์

  1. นักเรียนได้รับความรู้วิธีการปลูกมะนาวในวงซีเมนท์
  2. ได้ผลผลิตมะนาวส่งขายสหกรณ์โรงเรียนส่งต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวัน
  3. เป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
  4. นำความรู้ท่ีได้รับจากโรงเรียนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ทำปุ๋ยน้ำชีวภาพ ครั้งที่1hubsoh เมื่อ 10 มิ.ย. 59 น. @19 พ.ย. 59 06:15
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้้าท่ีฝ่ายงานรักษาให้ความรู้การทำปุ๋น้ำชีวภาพแก่นักเรียนสายป. 5
  2. อธิบายขั้นตอนการทำ วัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้และประโยนช์ของน้ำหมักชีวภาพ
  3. สาธิตการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ
  4. นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง
  5. นักเรียนนำน้ำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน
    • เทในลำคลอง
    • ผสมน้ำรดน้ำต้นไม้
    • ล้างส้วม
    • ล้างพื้นโรงอาหาร
    • เทลงท่อระบายน้ำ
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. มีนักเรียนแกนนำในการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพจำนวน 100 คน ครูที่ปรึกษา 5 คน ฝ่ายพัฒนาชุมชน เชตสะพานสูง 2 คน
  2. มีปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพใช้ทำความสะอาดแทนน้ำยาสารเคมี

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนได้รับความรู้ถงประโบนช์และขั้นตอนในการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ
  2. ได้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพแทนน้ำยาท่ีผลมสารเคมี
  3. นำไปเทในลำคลองทำให้น้ำในลำคลองใสขึ้นและเพิ่ออกซิเจนในน้ำ
  4. ใช้รดผลสมน้ำรดน้ำต้นไม้ทำให้ต้นไม้เจริญงอกงามดี
  5. น้ำไปล้างพื้นโรงอาหาร ล้างส้วม ล้างท่อระบายน้ำสะอาดดีไม่มีกลิ่นเหม็น
  6. นำไปจำหน่ายเพิ่มรายได้
การปลูกผักสวนครัว ครั้งที่1hubsoh เมื่อ 8 มิ.ย. 59 น. @28 ต.ค. 59 21:33
รายละเอียด:
  1. การให้ความรู้

    • ครูนำเสนอความหมายของ การปลูกพืชผักสวนครัว หน้ากระดาน
    • แบ่งกลุ่มนักเรียนตามความสมัครใจ กลุ่มละ 5 – 6 คน
    • ครูให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพื่อบอกความสำคัญของการปลูกผักสวนครัว
    • นักเรียนสำรวจผักสวนครัวในท้องถิ่น ที่สามารถนำไปปลูกได้ แล้วเขียนสรุปเป็นผังความคิด
    • ครูให้นักเรียนทำใบงานเรื่อง ความหมายและความสำคัญของการปลูกผักสวนครัว
  2. การเตรียมดินปลูกผักปลอดสารพิษ
    2.1 วิธีการเตรียมดิน การเตรียมดิน หมายถึง การปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการ ปลูกพืชแต่ละชนิด การเตรียมดินนั้นมี 2 อย่าง คือ การเตรียมดินแปลงเพาะเพื่อเพาะกล้า และ การเตรียมดินเพื่อปลูก การเตรียมดินเพื่อเพาะกล้าจะต้องเตรียมดินให้ละเอียดมากกว่า และต้องดูแลมากกว่าการเตรียมดินเพื่อปลูกพืช วิธีการเตรียมดินมีขั้นตอนดังนี้

    • กำจัดวัชพืช โดยเก็บเศษวัสดุต่างๆออกจากหน้าดินให้หมด แล้วใช้จอบถาก หรือมีดฟันหญ้า ถ้าวัชพืชอยู่ลึกต้องใช้เสียมหรือพลั่วมือขุดออก
    • กำหนดพื้นที่ปลูก สำหรับแปลงปลูกผักต้องใช้ไม้ปัก 4 มุม โดยวัดความกว้างยาวได้ตามต้องการ
    • ขุดดินบริเวณที่กำหนดไว้ ถ้าเป็นแปลงผักควรขุดดินลึกประมาณ 15 เซนติเมตร พลิกดินด้านล่างขึ้นมาด้านบน ตากไว้ให้แห้ง 2-3 วัน แล้วจึงย่อยดินให้ขนาดเล็กลง และเก็บเศษวัชพืชที่ยัง ค้างอยู่ในดินออกทิ้ง
    • ตกแต่งร่องให้เป็นรูปทรงตามที่กำหนด พรวนดินอีกครั้ง ถ้าดินเป็นกรดใส่ปูนขาว โรยบางๆผสมคลุกเคล้าพร้อมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  3. การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ

    • เตรียมเมล็ดพันธ์ที่จะลงปลูกให้นักเรียนได้ลงมือทำ
    • ครูให้นักเรียนปลูกผักปลอดสารพิษได้แก่ ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ชะอมมะนาว คะน้า กล้วย โหระพา กระเพรา มะกรูด มะเขือ พริก
    • นักเรียนดูแลรักษาพืชผักที่ปลูก รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย
  4. นักเรียนเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้จากการปลูก นำส่งโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนและเสริมสร้างรายได้แก่นักเรียนและจำหน่ายไปยังตลาดนัดนักเรียน

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต
1. นักเรียนปลูกผักสวนครัว 30 คน ครูที่ปรึกษา 2 คน ฝ่ายัฒนาชุมขนเขตสะพานสูง 2 คน 2. ได้ผักสวนครัวปลอดสารพิษในการประกอบอาหารกลางวัน 3. แกนนำนักเรียนได้นำความรู้ในการปลูกพืชสวนครัวไปขยายผลต่อในครอบครัว

ผลลัพธ์

  1. มีสวนครัวปลอดสารพิษสงสหกรณ์โรงเรียนและต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวัน
  2. นักเรียนได้นำความรู้ในการปลูกพืชสวนครัวไปขยายผลต่อในครอบครัว
  3. โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ในการปลูกสวนครัวปลอดสารพิษแก่ชุมชน
  4. นักเรียนได้รับผักที่มีประโยชน์ไม่มีสารปนเปื้อน
ทำน้ำยาล้างจาน ครั้งที่1hubsoh เมื่อ 3 มิ.ย. 59 น. @19 พ.ย. 59 09:21
รายละเอียด:
  1. ศึกษาวิธีการทำน้ำยาล้างจาน
  2. สำรวจจราคาวัสดุในการทำน้ำยาล้างจานจากร้านค้า
  3. ซื้อเอ็น 70 เกลือ สับปะรด มะนาว มะกรูด
  4. แบ่งนักเรียนลงมือปฏิบัติจรงการทำน้ำยาล้างจานร่วมกับแม่ครัว
  5. นำผลผลิตท่ีได้ส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่ายให้กับโตรงการอาหารกลางวันเพื่อให้แม่ครัวนำไปล้างจาน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต 1. นัเรียนที่ทำน้ำยาล้างจาน 10  คน ครูที่ปรึกษา 1 คน 2. ได้น้ำยาล้างจาน 15 ลิตร/ 1ชุด

ผลลัพธ์ 1. น้ำยาล้างจานสมุนไพรมีประสิธิภาพในการล้างจานดี 2. นักเรียนมีความรู้สามารถผลิตน้ำยาล้างจานได้ 3. โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ในการผลิตน้ำยาสมุนไพร 4. สามารถนำใปใช้ในครัวเรือน 5. สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว

การอบรม อย. น้อยhubsoh เมื่อ 24 พ.ค. 59 น. @26 ต.ค. 59 22:18
รายละเอียด:
  1. ส่งรายชื่อนักเรียนแกนนำสายชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เข้าอบรม อย. น้อย
  2. เจ้าหน้าท่ีจากสำนักงานเขตสะพานสูงฝ่ายสุขาภิบาลอาหารให้ความรู้
  3. เจ้าหน้าท่ีสาธิตครวจรปนเปื้อนในอาหาร
  4. นักเรียนแกนนำลงมือปฏิบัติจริงในการตตวจสารปนเป้ือนจากอาหาร
  5. เจ้าหน้าท่ีจากสำนักงานเขตสะพานสูงมอบเครื่องครวจรปนเปื้อนเบื้องต้นแก่ทางโรงเรียน
  6. นักเรียนแกนนำตรวจสารปนเปื้อนจากอาหารทุกเดือน พร้อมรายงานส่งเขต
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

  1. นักเรียนแกนนำสายชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เข้าอบรม อย. น้อยจาเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตสะพานสูงฝ่ายสุขาภิบาลอาหาร จำนวน 15 คน
  2. เจ้าหน้าท่ีจากสำนักงานเขตสะพานสูงฝ่ายสุขาภิบาลอาหารให้ความรู้ พร้อมสาธิตการครวจรปนเปื้อนเบื้องต้น 5ด้าน

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนได้รัความรู้เกี่ยวกับประเภทของสารปนเปื้อนในอาหารและวิธีตรวจสารปนเปื้อนในอาหาร ร้อยละ 100
  2. นักเรียนแกนนำมีความรู้ทักษะและสามารถตรวจสารปนเปื้อนจากอาหารได้ร้อยละ 100
  3. นักเรียนแกนนำตรวจสารปนเปื้อนจากอาหาร ทุกเดือน พร้อมรายงานส่งเขตทุกเดือน
การเพาะถั่วงอก ครั้งที่1hubsoh เมื่อ 16 พ.ค. 59 น. @28 ต.ค. 59 08:08
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้าท่ีฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูง ให้ความรู้ แนะนำวิธีการเพาะถั่วงอก พร้อมสาธิต
  2. ซื้อเมล็ดถั่วเขียว ดินเพาะปลูก ตะกร้าเพาะปลูก
  3. แบ่งกลุมนักเรียนลงมือปฏิบัติจรงในการเพาะและการดูแลต้นอ่อน
    • นำถั่วเขียวล้างนำ้ให้สะอาด 2-3 ครั้ง
    • แช่ถั่วเขียวในนำ้อุ่น ทิ้วไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
    • วางตะแกรงในถังและวางตะแกรงในล่อนทับ
    • โรยเมล็ดถั่วบนตะแกรงในล่อน
    • นำตะแกรงวาทับเมล็ดถั่วเขียวชั้นท่ี 1-3 แล้วปิดตะแกรงด้านบนอีกครั้ง
    • เครื่องเพาะจะปล่อยระบบน้ำอัตโนมัติทุก 2 ชั่วโมง
    • รอประมาณ 3 วันก็จะได้ถั่วงอกปลอดสารพิษ
  4. นำผลผลิตส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวัน
  5. ผลผลิตบางส่วนขายครู บุคคลากรในโรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียน
  6. นำผลผลิตท่ีได้นำส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่ายให้แก่โครงการอาหารกลางวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต

1.ได้ผลผลิตถั่วงอก 36กก./ 3 ถัง

ผลลัพธ์

  1. ได้รับความรู้การเพาะถั่วงอกจากเจ้าหน้าท่ีฝ่ายพัฒนาชุมชน เขตสะพานสูง
  2. นักเรียนได้รับประทานอาหารที่ปราศจากสารปนเปื้อน
  3. ทำให้นักเรียนมีสุขภาพแข็ง
การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ครั้งที่1hubsoh เมื่อ 25 พ.ค. 59 น. @28 ต.ค. 59 19:49
รายละเอียด:

1.ศึกษาวิธีการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์

1.1 ครูอธิบายการปลูกพืชไร้ดินและเชิญวิทยากรที่มีความรู้ในการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์

1.2 วิทยากรอธิบายวิธีการปลูกพืชไร้ดินแบบ Hydroponics ตามขั้นตอนดังนี้

- เตรียมฟองน้ำที่ใช้โดยการผ่าแบ่งให้เหมาะสมกับรางปลูก ใช้ มีดคัตเตอร์ กรีดฟองน้ำเป็นเครื่องหมายคูณ ความลึกของรอยประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
- ใส่เมล็ดลงไปในรอยกรีด ประมาณ 2-3 เมล็ด นำไปใส่ในกระบะเพาะ รดน้ำให้ชุ่มแต่ห้ามไม่ให้ระดับน้ำสูงเกินไปจนท่วมเมล็ดเพราะ เมล็ดจะไม่งอกและเน่าในที่สุด - นำผ้าขาวบางหรือผ้าที่ไม่หนามากนักมาคลุมที่กระบะเพาะ เพื่อเป็นการรักษาความชื้น ทิ้งไว้ 3-4 วัน แต่ต้องมีการเปิดดูทุกๆ วัน - เมื่อต้นกล้าที่เพาะไว้เริ่มจะแข็งแรงหรือมีอายุได้ประมาณ 5-7 วัน ให้เปิดผ้าออก แล้วนำต้นกล้าออกจากที่ร่มเพื่อมารับแสงแดด 2-3วัน ก็จะได้ต้นกล้าที่สามารถลงในรางปลูกได้
- ย้ายต้นกล้าลงในรางปลูก ให้ฟองน้ำ จมลงในในระดับน้ำเพียงครึ่งหนึ่งของทั้งหมดเพื่อให้รากของต้นพืชได้มีการเจริญเติมโต หาอาหารเองตามธรรมชาติ โดยมีสารละลายธาตุอาหารไหลผ่านรากตลอดเวลา - ให้ธาตุอาหารตามความเข้มข้นที่เหมาะสม ต่อความต้องการของพืชชนิดนั้น และตามที่ผลิตภัณฑ์สารอาหารนั้นกำหนด
- หมั่นดูแลรักษาทุกวัน สังเกตความต้องการสารอาหารของต้นพืชจากสีของลำต้นและสีของใบ ตามแต่ลักษณะของพืชชนิดนั้นๆ - ครูให้นักเรียนปลูกพืชไร้ดินแบบ Hydroponics
- นักเรียนดูแลรักษาพืชผักที่ปลูก
- นักเรียนเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้จากการปลูก นำส่งโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนและเสริมสร้างรายได้แก่นักเรียนและจำหน่ายไปยังตลาดนัดนักเรียน

  1. ซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์หน้าระเบียงอาคาร

    • ท่อเลฟล่อน
    • ถาดเพาะผักไฮโดรโปรนิกส์
    • ถ้วยเพาะต้นกล้าผักไฮโดรโปรนิกส์
  2. ซื้อเมล็ดพันธุ์ไฮโดรโปรนิกส์

  3. แบ่งกลุ่มนักเรียนปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์และดูแลรักษาพืชผักที่ปลูก

    • การปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ท่ีหน้าระเบียงอาคาร และในถาด
    • การใส่ปุ๋ย
    • การย้ายต้นกล้า
    • การให้น้ำหมุนเวียน
    • การชั่งผลผลิตจัดจำหน่ายใส่ถุงขาย

5.นำผลผลิตที่ได้ส่งสหกรณ์โรงเรียนเพิ่อจำหน่ายให้กับโครงการอาหารกลางวันและบุคลากรในโรงเรียน

ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต 1. นักเรียนรับผิดชอบปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ปลอดสารพิษ จำนวน 100คน ครูที่ปรึกษา 2 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน 2 คน 2. ได้ผักไฮโดรโปรนิกส์ปลอดสารพิษในการประกอบอาหาร

ผลลัพธ์ 1. นักเรียนมีความรู้ ทักษะในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์สามารถขยายผลสู่เครื่อข่ายได้ 2. นักเรียนนำผลผลิตขายผ่านสหกรณ์ต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน 3. นักเรียนนำความรู้ ประสบการณ์ท่ีได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน 4. เป็นอาชีพเสริมเพ่มรายได้ให้แก่ครอบครอบ

การเลี้ยงปลาดุก ครั้งที่1hubsoh เมื่อ 20 พ.ค. 59 น. @28 ต.ค. 59 09:44
รายละเอียด:
  1. เจ้าหน้าท่ีฝ่ายพัฒนาชุมชน สำนักงานเขตสะพานสูงให้ความรู้นักเรียนแกนนำในการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแลในวงซีเมนท์
  2. เตรียมสถานท่ี อุุปกรณ์วัสดุและอาหาร ท่ีใช้เลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแลในวงซีเมนท์ 3.ซื้อพันธุ์เลือกพันธุ์ปลาดุกที่มีความแข็งแรงและไม่เล็กเกินไปขนาดประมาณ 2นิ้ว ปลาดุกรัสเซีย 100 ตัว ๆ ละ 3 บาทเป็นเงิน 300 บาท 4.ซื้ออาหารปลาเล็ก 2 กระสอบ ๆ ละ 480 บาท เป็นเงิน 960 บาท 5.ซื้ออาหารปลาโต 2 กระสอบ ๆ ละ 520 บาท เป็นเงิน 1040 บาท 6.ซื้อตาข่ายปิดปากบ่อ 10 เมตร ๆ ละ20 บาท เป็นเงิน 200 บาท
  3. อธิบายและสาธิตการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแลในวงซีเมนท์
  4. ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติในการดูแลรักษาสำหรับ ปลาดุก ต้องมีระดับถ่ายเทน้ำให้น้ำใสสะอาดไม่ขุ่น เพราะถ้าน้ำขุ่นหรือน้ำสกปรกที่เกิดจากอาหารตกค้างจะทำให้ปลาดุกตาย อาการจากคุณภาพน้ำไม่ดีจะสังเกตได้จากการที่ปลาจะว่ายน้ำขึ้นลงเร็วกว่าปกติ และจะลอยตัวอยู่เหนือน้ำเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าน้ำกำลังสกปรกและควรเปลี่ยนน้ำทันทีโรงเรียนจึงแก้ปัญหานี้โดยการใช้ระบบหมุนเวียนน้ำ
  5. นักเรียนช่วยกันอภิปรายและสรุปผลการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแลในงวซีเมนท์
  6. นำผลผลิตปลาดุกส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวันต่อไป
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต 1.นักเรียนแกนนำเข้าร่วมจำนวน 35คน 2.ครูและบุคลากรเข้าร่วมจำนวน จำนวน 5 คน 3.ภาคีเครือข่ายเข้าร่วมจำนวน  5 คน 4.มีการเลี้ยงปลาดุกจำนวน 500  ตัว

ผลลัพธ์

  1. นักเรียนแกนนำมีความรู้ทักษะในการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแลในวงซีเมนท์ 2.ชุมชนและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดเลี้ยงปลาดุก
  2. โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแลในวงซีเมนท์ในชุมชน
  3. มีผลผลิตปลาดุกส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อต่อยอดสู่โครงการอาหารกลางวัน
อบรมหลักสูตรสุขาภิบาลอาหารให้กับแม่ครัวhubsoh เมื่อ 14 พ.ค. 59 น. @23 ต.ค. 59 23:29
รายละเอียด:
  1. ส่งรายชื่อแม่ครัวที่อบรมหลักสูตรสุขาภิบาลอาหาร ฝายสิ่งแวดล้อมสุขาภิบาล สำนักงานเขตสะพานสูง
  2. แม่ครัวรายงานตัวเข้ารัการอบรมหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหาร ของกรุงเทพมหานคร
  3. ได้รับความรู้เรื่องอาหารปนเปื้อนในอาหาร หนอนพยาธิ การจัดสถานท่ีในการประกอบอาหาร การจัดรายการอาหาร ภาชนะอุปกรณ์ การควบคุมแมลงและสัตว์นำโรค การเลือกซื้ผัก ผลไม้
  4. แบ่งกลุ่มย่อยทำกิจกรรมกลุ่ม
  5. ทดสอบวัดผลการเรียนรู้
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต 1. แม่ครัวเข้ารัการอบรมหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหาร ของกรุงเทพมหานคร 2. แม่ครัว.ได้รับความรู้เรื่องอาหารปนเปื้อนในอาหาร หนอนพยาธิ การจัดสถานท่ีในการประกอบอาหาร การจัดรายการอาหาร ภาชนะอุปกรณ์ การควบคุมแมลงและสัตว์นำโรค การเลือกซื้ผัก ผลไม้ 3. แม่ครัวนำความรู้ท่ีได้รัจากการอบรมมาต่อยอดปรังปรุงแก้ไขโรงอาหารท่ีโรงเรียนให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลอาหาร 4. ส่งผลให้โรงอาหารมีสถานที่ประกอบอาหาร การจัดเก็บอุปกรณ์ และภาชนะ การล้างผัก ผลไม้ สะอาดถูกต้อง ผลลัพธ์ 1. แม่ครัวได้รับความ

การเพาะต้นอ่อนทานตะวันครั้งท่ี 1hubsoh เมื่อ 2 พ.ค. 59 น. @26 ต.ค. 59 23:14
รายละเอียด:
  1. ศึกษาวิธีการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน
  2. ซื้อเมล็ดทานตะวัน ดินเพาะปลูก ตะกร้าเพาะปลูก
  3. แบ่งกลุมนักเรียนในการเพาะและการดูแลต้นอ่อน
    • เตรียมวัสดุเพาะ ได้แก่ ขุยมะพร้าวอ่อน ขี้เถ้แกลบร่อน กับดินร่วน 1ต่อ1 ผสมให้เข้ากัน
    • แช่เมล็ดทานตะวันในน้ำอุ่นทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
    • นำวัสดุปลูกใส่ตะกร้าท่ีมีตาถี่ ๆ ประมาณ 3/4 ของภาขนะ
    • โรยเล็ดทานตะวันให้ทั่วแล้วเกลี่ยให้ทั่ว โรยขุยมะพร้าวเกลี่ยให้ทั่วอีกครั้งนำไปวางไว้ในท่ีร่ม
    • รดน้ำทุกวันเมื่อต้นทานตะวันเจริญเติโตประมาร 4-5 วันสามรถตัดผลผลิตได้
  4. นำผลผลิตท่ีได้นำส่งสหกรณ์โรงเรียนเพื่อจำหน่ายให้แก่โครงการอาหารกลางวัน
ผลผลิต/ผลลัพธ์:

ผลผลิต -นักเรียนจำนวน  100  คน เข้าร่วมกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ  50
-ครูและบุคลากรจำนวน  2  คน เข้าร่วมกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ  100 -จัดทำเพาะต้นอ่อนทานตะวันจำนวน  10  ถาด

ผลลัพธ์

1.ได้ต้นอ่อนทานตะวันจำนวน 20  กิโลกรัม 2. นักเรียนได้รับประทานต้นอ่อนทานตะวันปลอดสารพิษ 3. นักเรียนแกนนำที่รับผิดชอบในการเพาะต้นอ่อนทานตะวันมีความรู้ทักษะในการเพาะต้นอ่อนทานตะวันและสามารถนำไปเพาะได้ด้วยต้นเองร้อยละ
4. นักเรียน ครู ผู้ปกครองมีความพึงพอใจร้อยละ