วันที่ 20 พฤษภาคม 2559 ประชุมคณะครูวางแผนชี้แจง และมอบหมายหน้าที่จัดตั้งชมรมของนักเรียน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ประชุมจัดตั้งชมรมของนักเรียนโดยผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวเปิดประชุมและชี้แจงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งชมรมของนักเรียน เพื่อให้เด็กเกิดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแต่ละชมรม ชมรมกีฬานันทนาการ ชมรม To be number one ชมรมเพื่อนใจวัยรุ่น ชมรมดนตรี นาฏศิลป์ ชมรมสุขาน่าใช้ อย.น้อย และกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 15 กิจกรรม เช่น กลุ่มที่ 1 หนังสือเล่มเล็ก กลุ่มที่ 2 เล่านิทาน กลุ่มที่ 3 สืบค้นข้อมูล กลุ่มที่ 4 สรภัญญะสู่การอ่าน กลุ่มที่ 5 ผญาอีสานสืบสานรักการอ่าน กลุ่มที่ 6 ปั้นดินให้เป็นดาว กลุ่มที่ 7 วรรณกรรมท้ายรถ กลุ่มที่ 8 บทกลอนที่หนูรัก กลุ่มที่ 9 ถอดบทเรียนพอเพียง กลุ่มที่ 10 อาชีพดีที่หนูรัก กลุ่มที่ 11 คณิตคิดสนุก กลุ่มที่ 12 วางทุกงานอ่านทุกคน กลุ่มที่ 13 สุขบัญญัติสู่นิสัยการอ่าน กลุ่มที่ 14 ขับขานประสานเสียง กลุ่มที่ 15 อ่านตามรอยพ่อ
รับสมัครนักเรียนแกนนำ และนักเรียนที่มีความสนใจกิจกรรมของชมรมต่างๆที่จัดขึ้นในลักษณะพี่สอนน้อง
มีนักเรียนที่มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมของชมรม จำนวน 323 คน
ผลผลิต
1. นักเรียนจำนวน 323 คน สมัครใจเข้าร่วมกิจกรรมชมรมที่จัดขึ้น ได้แก่ ชมรมกีฬานันทนาการ ชมรม To be number one ชมรมเพื่อนใจวัยรุ่น ชมรมดนตรี นาฏศิลป์ ชมรมสุขาน่าใช้ อย.น้อย และกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 15 กิจกรรม เช่น กลุ่มที่ 1 หนังสือเล่มเล็ก กลุ่มที่ 2 เล่านิทาน กลุ่มที่ 3 สืบค้นข้อมูล กลุ่มที่ 4 สรภัญญะสู่การอ่าน กลุ่มที่ 5 ผญาอีสานสืบสานรักการอ่าน กลุ่มที่ 6 ปั้นดินให้เป็นดาว กลุ่มที่ 7 วรรณกรรมท้ายรถ กลุ่มที่ 8 บทกลอนที่หนูรัก กลุ่มที่ 9 ถอดบทเรียนพอเพียง กลุ่มที่ 10 อาชีพดีที่หนูรัก กลุ่มที่ 11 คณิตคิดสนุก กลุ่มที่ 12 วางทุกงานอ่านทุกคน กลุ่มที่ 13 สุขบัญญัติสู่นิสัยการอ่าน กลุ่มที่ 14 ขับขานประสานเสียง กลุ่มที่ 15 อ่านตามรอยพ่อ
ผลลัพธ์ 1. นักเรียนมีส่วนร่วมในการร่วมกิจกรรมชมรมของโรงเรียน นำไปสู่การมีพติกรรมที่เหมาะสมตามช่วงวัย 2. นักเรียนมีความรู้ ทักษะในแต่ละชมรม เช่น ดนตรีนาฏศิลป์ และทักษะการอ่าน 3. นักเรียนมีความสามัคคี กล้าแสดงออก ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น
ประกอบด้วย