ศูนย์เรียนรู้เด็กไทยแก้มใส

ปลูกพืชผักสวนครัวห้อยหัว (การประหยัดพื้นที่ในการใช้สอย)

นักเรียนแกนนำ จำนวน 11 คน พร้อมด้วยครูคณะทำงาน ร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัวห้อยหัว(การประหยัดพื้นที่ในการใช้สอย) วันที่ 16 มีนาคม 2565 อาทิ พริกหอมสุพรรณ พริกสวยงาม มะเขือยาว มะเขือพวง ใบกระเพรา ใบสาระแหน่ ใบแมงลัก ใบโหระพา ผักชีใบเลื่อย ทำให้นักเรียนแกนนำมีความรู้การปลูกพืชผักสวนครัวห้อยหัว และสามารถถ่ายทอดการปลูก การดูแลให้กับนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ ได้ต่อไป

องค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่า จังหวัดสุพรรณบุรี นำโดยอดีตกำนันอรุณ พานทอง ผู้ใหญ่สมพงษ์ พานทอง ผู้ช่วยอำนาจ เกิดหิรัญ สารวัตร สุเทพ อินทร์พิบูลย์  สอบต.ศักดา เกิดหิรัญ และพนักงาน อบต.โคกโคเฒ่า มาช่วยทำซุ้มห้อยพืชผักสวนครัว (การประหยัดพื้นที่ในการใช้สอย)

ได้ซุ้มห้อยพืชผักสวนครัว จำนวน 1 ซุ้ม และได้ความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ชุมชน และองค์กร เป็นอย่างดี

ดำเนินการอบรมและปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ใบกระเพรา ตะไคร้ มะกรูด ถั่วฝักยาว เป็นต้น โดยนำพืชผักสวนครัวที่ปลูก ปลอดภัยจากสารพิษมาประกอบอาหารให้กับนักเรียน

1. ผู้รับผิดชอบโครงการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการทำเกษตร และวัสดุไส้กรองน้ำ จำนวนเงิน 6,500 บาท (ตามเอกสารที่แนบ) 2. ดำเนินกิจกรรมปลูกพืชผักสวนครัว โดยเชิญปราชญ์ชาวบ้านมาเป็นวิทยากรในการให้ความรู้และสาธิตการปลูกพืชผักสวนครัว ให้แก่นักเรียนแกนนำ จำนวน 11 คน โดยมีรายละเอียดการสอนดังนี้ 1) การเตรียมสถานที่ในการทำแปลงเกษตร 2) การเพาะพันธุ์เมล็ดพืชผักสวนครัว 3) การขุดดิน รดน้ำ พรวนดิน และการให้ปุ๋ย 4) การปลูกพืชผักสวนครัว แบบประหยัดพื้นที่การใช้สอย โดยจัดกิจกรรมในวันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลา 9.00 – 14.00 น. รวมจำนวน 5 ชั่วโมง ค่าตอบแทนวิทยากร จำนวน 500 บาท 3. นักเรียนแกนนำ จำนวน 11 คน นำความรู้ที่ได้ไปสอนนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ ในปีการศึกษา 2565 โดยมีคณะครูคอยช่วยเหลือในการให้ความรู้ 4. นักเรียนได้รับประทานผลผลิตทางการเกษตรประเภทต่าง ๆ ที่ปลูกภายใต้โครงการ ข้อจำกัดหรืออุปสรรค เนื่องจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 2019 ส่งผลให้ต้องคัดเลือกนักเรียนระดับชั้น ป.4-6จำนวน 11 คน เข้ากิจกรรมอบรม ให้ความรู้ การปลูกพืชผักสวนครัว

ครูประจำชั้น และครูอนามัยโรงเรียน ติดตามภาวะโภชนาการของนักเรียน เช่น น้ำหนัก และส่วนสูง เป็นประจำทุกเดือน ลงในสมุดบันทึกสุขภาพนักเรียน ใช้ระบบ Excel ประเมินภาวะการเจริญเติบโตเด็ก 0-19 ตามหลักมาตรฐานกรมอนามัย 2564

ดำเนินกิจกรรมติดตามเฝ้าระวังโภชนาการ โดยครูประจำชั้นและครูอนามัยของโรงเรียน ติดตามภาวะโภชนาการน้ำหนัก ส่วนสูง ของนักเรียนเป็นประจำทุกเดือน ส่งผลให้ทราบสภาวะนักเรียนรายบุคคลและนักเรียนที่เฝ้าระวัง โดยติดตาม กำกับ แก้ไขนักเรียนที่เฝ้าระวังเป็นรายบุคคล

ตรวจสอบ ดูแล และแก้ไข เครื่องกรองน้ำของโรงเรียน ให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ และอบรมความรู้ เรื่อง ความปลอดภัยของอาหาร สุขาภิบาลอาหาร และสิ่งแวดล้อม

ดำเนินการตรวจสอบ ดูแล และแก้ไขระบบน้ำในเครื่องกรองน้ำของโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบวันที่ 1 ของทุกๆ 3 เดือน (วันที่ 1 มกราคม , วันที่ 1 เมษายน ,วันที่ 1 กรกฎาคม ,วันที่ 1 ตุลาคม)  และได้ดำเนินการจัดซื้อไส้กรองน้ำเรซิ่น และไส้กรองน้ำคาร์บอน จำนวน  2 ชุด ๆ ละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,000 บาท ตามแผนโครงการที่ระบุไว้ เพื่อดำเนินการเปลี่ยนไส้กรองน้ำที่หมดประสิทธิภาพ ส่งผลต่อความปลอดภัยในการบริโภค ข้อจำกัดหรืออุปสรรค เนื่องจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 2019 ส่งผลให้การจัดอบรมความรู้ เรื่อง ความปลอดภัยของอาหาร สุขาภิบาลอาหาร และสิ่งแวดล้อมไม่สามารถจัดรวมชั้นหรือรวมคนได้ จึงมอบหมายครูประจำชั้นสอนเรื่องสุขาภิบาล อาหาร และสิ่งแวดล้อม ในรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา

ตัวแทนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 –6 จำนวน 11 คน เป็นแกนนำ ให้ความรู้เรื่องการเกษตรและอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ โดยอบรมความรู้จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกโคเฒ่า จังหวัดสุพรรณบุรี ในวันที่ 6 มกราคม 2565

ดำเนินการจัดกิจกรรมแกนนำเกษตรตัวน้อย โดยคัดเลือกนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4–6 จำนวน 11 คน เข้าอบรมความรู้จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกโคเฒ่า จากนั้นให้นักเรียนทั้ง 11 คน ทำหน้าที่เป็นแกนนำให้ความรู้ เรื่อง การเกษตร และโภชนาการอาหารที่ถูกหลักโภชนาการภายในสถานศึกษา   ข้อจำกัดหรืออุปสรรค เนื่องจากการแพร่ระบาดเชื้อโรค  โควิด 2019 ส่งผลให้ไม่สามารถนำนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4–6 ไปอบรมที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกโคเฒ่าได้ จึงปรับเปลี่ยนเป็นการคัดเลือกแกนนำนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 11 คน อบรมความรู้ เรื่อง การเกษตรและอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกโคเฒ่า และนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ให้กับนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ โดยมีครูประจำชั้นคอยช่วยเหลือและแนะนำความรู้เพิ่มเติม

ผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน จัดรายการอาหารตามโปรแกรม Thai School Lunch

ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวันได้ดำเนินการจัดรายการอาหารตามโปรแกรม Thai School Lunch อย่างต่อเนื่องทุกปีการศึกษา แต่เนื่องจากในปีการศึกษา 2564 ไม่มีการดำเนินจ้างแม่ครัว ครูผู้รับผิดชอบโครงการจึงประชาสัมพันธ์ความรู้เรื่องการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และแนะนำโปรแกรม Thai School Lunch ให้กับผู้ปกครอง เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปจัดเตรียมหรือประกอบอาหารให้กับนักเรียนแทนข้อจำกัดหรืออุปสรรค  เนื่องจากการแพร่ระบาดเชื้อโรค  โควิด 2019 ส่งผลให้โรงเรียนไม่ได้ดำเนินการจ้างเหมาแม่ครัว ครูผู้รับผิดชอบโครงการจึงไม่ได้ดำเนินการจัดรายการอาหารตามโปรแกรม Thai School Lunch ในปีการศึกษา 2564 แต่ได้ดำเนินการเปลี่ยนรูปแบบเป็นการให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แนะนำโปรแกรม Thai School Lunch แก่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองนำความรู้ที่ได้ไปจัดเตรียมหรือประกอบอาหารให้กับนักเรียน ทั้งนี้ โรงเรียนได้นำผลผลิตทางการเกษตร เช่น กล้วยน้ำว้าสุก มะม่วงสุก มาให้นักเรียนรับประทานร่วมกับอาหารกลางวันที่ผู้ปกครองจัดเตรียมให้

ครูจัดทำแผนบูรณาการเรื่องอาหารและโภชนาการ ในรายวิชาการงานอาชีพ บนพื้นฐานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ครูผู้สอนทุกระดับชั้น ได้ดำเนินการจัดทำแผนบูรณาการเรื่องอาหารและโภชนาการอาหารที่ถูกหลักอนามัย ในรายวิชาการงานอาชีพ บนพื้นฐานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 2 ชั่วโมง เพื่อนำมาสอนนักเรียนตามระดับชั้นที่ตนรับผิดชอบ ยกตัวอย่างการเรียนการสอนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง การประกอบอาหารและโภชนาการของอาหาร ขั้นตอนการสอน ชั่วโมงที่ 1 มีขั้นตอนการสอน 1) นักเรียนศึกษาความรู้เรื่องอาหารและโภชนาการที่ถูกหลักอนามัย 2) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม และเสนอเมนูอาหารที่ต้องการทำ โดยยึดหลักโภชนาการ 3) นักเรียนแต่ละกลุ่ม แบ่งการนำวัตถุดิบมาประกอบอาหารที่โรงเรียน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ชั่วโมงที่ 2 มีขั้นตอนการสอน 1) นักเรียนแต่ละกลุ่ม ประกอบอาหารตามที่ได้วางแผนไว้ 6) นักเรียนแต่ละกลุ่มรับประทานอาหารที่ตนได้ทำ 7) นักเรียนแต่ละกลุ่ม ทำใบงาน เรื่อง อาหารและโภชนาการอาหารที่ถูกหลักอนามัย และส่งตัวแทนมานำเสนอหน้าชั้นเรียน

จัดประชุมครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง สร้างระบบและกลไกในการดำเนินงาน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565

ดำเนินการประชุมคณะครูและบุคลากรในสถานศึกษา เพื่ออธิบายรายละเอียดของโครงการ และแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพัฒนาการบริหารจัดการด้านอาหารและโภชนาการของเด็กวัยเรียน ปีการศึกษา 2564 (คำสั่งโรงเรียนโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ เลขที่ 89/2564 ลงวันที่ 2 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2564) ดังนี้ 1.คณะกรรมการอำนวยการ 1) นางสาวอุทัยวรรณ ขาววงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ ประธานกรรมการ 2) นางสาวธัญจิรา อบทม ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ มีหน้าที่ ให้คำปรึกษา อำนวยความสะดวก สนับสนุนเกี่ยวกับการดำเนินงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 2.คณะกรรมการดำเนินงาน ด้านมาตรฐานที่ 1 นโยบายและการบริหารจัดการของสถานศึกษา 1) นางสำลี ฉ่ำชื่น ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ 2) นางสาวธัญจิรา อบทม ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ ด้านมาตรฐานที่ 2 การจัดการด้านความปลอดภัยอาหาร สุขาภิบาลอาหารและสิ่งแวดล้อม 1) นางสาวธนวรรณ แย้มวงษ์ ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ 2) นางสาวกนกพร ฉ่ำชื่น ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ ด้านมาตรฐานที่ 3 คุณค่าทางโภชนาการ สารอาหารที่เด็กควรได้รับตามวัย 1) นางสาวหทัยวรัทย์ ศิรินันทวิทยา ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ 2) นางสาวปณศร ศรีธรรมรัชต์   ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ ด้านมาตรฐานที่ 4 การบูรณาการจัดการเรียนรู้ และปัจจัยแวดล้อมเชิงสร้างสรรค์ 1) นางสาวธัญจิรา อบทม  ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ 2) นางสำลี ฉ่ำชื่น    ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ 3) นางสาวธนวรรณ แย้มวงษ์ ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ ด้านมาตรฐานที่ 5 การเฝ้าระวังโภชนาการ 1) นางสาวหทัยวรัทย์ ศิรินันทวิทยา  ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ 2) นางสาวปณศร ศรีธรรมรัชต์ ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ 3) นางสาวสุภิญญา เรือนแก้ว ครูโรงเรียนวัดหน่อสุวรรณ กรรมการ มีหน้าที่ 1.ประชุมวางแผนดำเนินงาน 2.ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามโครงการพัฒนาพัฒนาการบริหารจัดการด้านอาหารและโภชนาการของเด็กวัยเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๔ และ ปีการศึกษา 2565 3.สรุปผลการดำเนินกิจกรรม 4.ปฏิบัติงานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการโรงเรียน

นักเรียนแกนนำสอนออกกำลังกาย คีตะมวยไทย ทุกวันอังคารหลังกิจกรรมหน้าเสาธง

ดำเนินการจัดกิจกรรมคีตะมวยไทย โดยมอบหมายให้นักเรียนแกนนำระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นผู้สอนนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ ออกกำลังกายคีตะมวยไทย ทุกวันอังคารหลังกิจกรรมหน้าเสาธง ส่งผลให้นักเรียนมีสุขภาพร่งกายที่แข็งแรงขึ้น